นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดกรณีดูไบคือ NWR เพราะร่วมทุนกับ ITD ไปทำงานก่อสร้างที่ดูไบชื่อ ITD-Nawara LLC ที่ผ่านมาทั้ง 2 บริษัทต้องรับผลขาดทุนจากกิจการร่วมค้าค่อนข้างเยอะ
ถ้าเกิดมัปัญหาเรื่องชำระเงินโครงการที่ดูไบจริง NWR โดนเยอะสุดเพราะไปปล่อยกู้ให้กับจอยเวนเจอร์ 94 ล้านบาท และกิจการร่วมค้าก็เป็นลูกหนี้ NWR ด้วย 11 ล้านบาท เนื่องจาก NWR ไซส์ไม่ใหญ่ถ้าในที่สุดแล้วไม่ดีขึ้นก็ต้องตั้งสำรองตรงนี้จะกระทบเยอะ อับดับ 2 คือ ITD ที่ผ่านมาได้รับผลขาดทุนจากกิจการร่วมค้าแห่งนี้ขาดทุนต่อเนื่องโดยปี 51 ตั้งสำรองโครงการปาล์มลากูน่าที่อาหรับเอมิเรสต์ 278 ล้านบาท และมีการปล่อยกู่ระยะสั้นให้กิจการร่วมค้าแต่เงินน้อยกว่า NWR คือแค่ 55 ล้านบาท แต่เนื่องจาก asset ไซด์ใหญ่ก็กระทบไม่มาก
อันดับ 3 PLE ขายหุ้นบริษัทร่วมไปแล้วคือ Power Line Gulf Construction L.L.C เคยทำงานที่อาหรับเอมิเรสต์ 2โครงการ คือดูไบลากูนหยุดก่อสร้างทั้งหมดไปแล้วช่วงต้นปี 52 และโครงการเอสแม่นชะลอตัว อาจจะมองเหตุการณ์ไม่ดีมาก่อนหน้านี้ว่าจะเกิดเรื่องจึงชะลอไปแล้ว และวันที่ 1 ก.ย.มีการขายหุ้นบริษัทร่วมแห่งนี้ไปแล้วแต่ก็อ่วมใน 8 เดือนก่อนหน้านี้บริษัทร่วมแห่งนี้มีผลขาดทุน 506 ล้านบาทและมีหนี้สินมากกว่าสินทรัพย์แต่พอขายหุ้นไปแล้วผลร้ายก็น้อยลง
อันดับ 4 SYNTEC มีบ.ร่วมที่ถือหุ้นอยู่ 46% คือ ซินเท็คคอนสครัตชั่น LLC และเมื่อ 15 ต.ค.ทางซินเท็คก็มีมติให้เลิกจากบริษัทร่วมแห่งนี้เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงืนทั่วโลกมาก่อนหน้าและเคยตั้งสำรองด้อยค่าไปแล้วและไตรมาส 3 ที่ผ่านมามีการกลับมาเป็นรายได้เพราะได้เงินคืนมาบางส่วน
"หนักสุด NWR รองลงมา ITD และ PLE กับ SYNTEC ก็หยุดกิจการไปแล้วกระทบไม่เยอะ อย่าง ITD PLE ราคาร่วงรับข่าวไปแล้ว"
NWR เต็มมูลค่าพื้นฐาน 0.35 บาท ITD เต็มมูลค่าพื้นฐาน 2.84 บาท PLE เต็มมูลค่า 1.30 บาท SYNTEC "ซื้อ"พื้นฐาน 0.92 บาท
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.30 น.
NWR อยู่ที่ 0.39 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ITD ร่วง 2.78% อยู่ที่ 2.80 บาท ลดลง 0.08 บาท
PLE ร่วง 3.52% อยู่ที 1.37 บาท ลดลง 0.05 บาท
SYNTEC ร่วง 1.49% อยู่ที่ 0.66 บาท ลดลง 0.01 บาท