โบรกฯเชียร์"ซื้อ/ถือ"LH ฐานะการเงินแข็งแกร่ง-รับปย.LH Bankเข้าตลาดหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 27, 2009 14:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะซื้อหุ้นบมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์(LH)มองปี 53 การเติบโตของรายได้ดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่มีการประเมินว่า GDP จะกลับมาเป็นบวก ประกอบกับ อัตรากำไรขั้นต้นก็ปรับดีขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนการขายโครงการระดับบน อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกหนุนจากแผนนำ LH Bank เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ H1/53 ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ 43%

          โบรกเกอร์          คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย
          บล.ทรีนีตี้            ซื้อ                 8.80
          บล.ฟิลลิป            ซื้อ                 7.50
          บล.ดีบีเอสฯ          ถือ                 6.85
          บล.กรุงศรีฯ          ถือ                 6.50
          บล.เอเชีย พลัส       ถือ                 6.45

นายเถลิงศักดิ์ ตันติพินธวัตร นักวิเคราะห์ บล.ทรีนิตี้ แนะ"ซื้อ"LH จากประเด็นบริษัททำธุรกิจสร้างบ้านก่อนขาย ที่จะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่เมื่อเวลาเศรษฐกิจฟื้นตัว ขณะที่ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และ มีแผนนำ LH Bank เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 53

บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 53 เติบโตประมาณ 10%-20% จากปี 52 โดยคาดว่าการเติบโตของรายได้จะมาจากโครงการในแนวราบประเภท บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากคาดว่าปีหน้าเศรษฐกิจฟื้นตัว GDP พลิกกลับมาเป็นบวก ซึ่งมองว่าจะส่งผลดีต่อตลาดมาก ด้านอัตรากำไรขั้นต้นปี 53 น่าจะปรับตัวดีขึ้นเป็น 32% จากปี 52 อยู่ที่ 31.4% เนื่องจากที่คาดว่าสัดส่วนการขายบ้านระดับบนจะเพิ่มขึ้น

ด้านฐานะทางการเงินยังแข็งแกร่งดี โดยบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนแค่ประมาณ 0.6 เท่า ถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับในอุตสาหกรรมและบริษัทอื่นที่ทำคอนโดฯ และมีเงินสดในมือสูง ล่าสุด ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.08 บาท/หุ้น ถือเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้น

ส่วนเรื่องการจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของ LH Bank คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกของปี 53 ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ใน LH Bank ในสัดส่วน 43%

ด้านนายชาตรี ศรีสมัยเจริญ นักวิเคราะห์ บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า หุ้น LH ยังดำเนินธุรกิจเหมือนเดิม คือ การขายบ้านเดี่ยวราคาระดับ 5 ล้านบาทขึ้นไป ยังคงเป็นโครงการขายดี ทำเลเน้นตามหัวเมืองทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล เชียงใหม่ ขอนแก่น และทยอยเพิ่มสัดส่วนของ Retail ที่ล่าสุดเปิดตัวโครงการ"Terminal 21"มูลค่า 6 พันล้านบาท ซึ่งจะมีรายได้เข้ามาในปี 55

สำหรับโครงการ Terminal 21 กว่าจะเปิดคงอีกนาน และเชื่อว่าช่วงเริ่มต้นคงจะสร้างรายได้ แต่ยังไม่สร้างกำไร น่าจะไปเริ่มต้นดีจริงๆ อย่างเร็วคือ 6 เดือนหลังเปิด และขึ้นอยู่กับพื้นที่เช่าด้วย อีกทั้ง LH ยังเป็นหน้าใหม่ในธุรกิจค้าปลีก ไม่เหมือนเจ้าที่เป็นมืออาชีพอยู่แล้ว

"ถ้าถามจุดเด่นฐานะการเงินยังค่อนข้างดี ปีหน้าจะมีอะไรใหม่ๆหรือไม่ ก็น่าจะเป็นเรื่องนำ LH Bank เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หลังจากข่าวนี้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ผลประกอบการของ LH Bank ยังไม่ได้เป็นรูปเป็นร่าง แต่ช่วงนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นจากความจำเป็นในการตั้งสำรองฯที่ลดลง และเรื่องของ NIM เริ่มปรับตัวดีขึ้น เข้าใกล้ธนาคารใหญ่ 2 ปัจจัยนี้ทำให้แนวโน้มของ LH Bank ดูดีขึ้น ส่วนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจในช่วงนั้นๆ มากกว่าที่จะเป็นเรื่องของผลประกอบการของ LH Bank เอง"นายชาตรี กล่าว

ด้านเป้ารายได้ ผู้บริหารบริษัทตั้งไว้เติบโตปีละ 15% ขณะที่ผลประกอบการปี 52 มีแนวโน้มการเติบโตสูงเช่นเดียวกันกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ในกลุ่มที่อยู่อาศัยฯ เราคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปี 52 ของ LH จะเติบโต 10.2%YoY ถือเป็นอัตราเติบโตที่สูงสุดในรอบ 5 ปีย้อนหลังของบริษัท

อย่างไรก็ตาม สำหรับผลประกอบการในปี 53 ซึ่งอิงสมมุติฐานที่ภาครัฐจะไม่ต่ออายุมาตรการภาษีภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งหมดอายุในเดือน มี.ค. 53 เราคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิในปี 53 จะเติบโตในอัตราที่ลดลงเหลือเพียง 3.6%YoY

"แนะนำ"ถือ"ลงทุนไว้เป็นระยะเวลา 1 ปี"นายชาตรี กล่าวแนะนำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ