ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) จากการนำของหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินที่ฟื้นตัว เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลจากข่าวที่ว่าบริษัท ดูไบ เวิลด์ ของรัฐบาลดูไบ มีแผนเลื่อนการชำระหนี้ หลังจากที่เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
โดยดัชนี FTSE 100 ดีดตัวขึ้น 51.60 จุด หรือ 1% ปิดที่ระดับ 5,245.73 จุด
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีดิ่งลงอย่างรุนแรงท่ามกลางความวิตกกังวลว่า บริษัท ดูไบ เวิลด์ของรัฐบาลซึ่งมีหนี้สินรวม 5.9 หมื่นล้านดอลลาร์ กำลังขอเลื่อนการชำระหนี้จำนวน 3.5 พันล้านดอลลาร์ซึ่งครบกำหนดในเดือนธ.ค.ที่จะถึงนี้ ออกไปเป็นเดือนพ.ค.ปีหน้า อีกทั้งยังได้ว่าจ้างให้ ดีลอยท์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการสอบบัญชีระดับโลก ให้เป็นที่ปรึกษาด้านการปรับโครงสร้างการเงินของบริษัท
ทั้งนี้ ดูไบ ซึ่งปกครองโดยชี้ค มูฮัมหมัด บิน ราชิด อัล มัคตูม ได้กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินราว 8 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนโครงการก่อสร้างในระยะเวลา 4 ปี โดยมีเป้าหมายที่จะพลิกโฉมดูไบให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการเงิน แต่ดูไบต้องประสบกับปัญหาภาวะตกต่ำสุดขีดในตลาดอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกถดถอย ส่งผลให้ราคาบ้านในดูไบร่วงลง 50%
ด้านนักวิเคราะห์มองว่า แม้ว่าตลาดจะได้รับปัจจัยลบในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็เชื่อว่าพื้นฐานตลาดหุ้นยังมีความแข็งแกร่งและจะเดินหน้าสู่ช่วงขาขึ้นในอีก 3-6 เดือนต่อจากนี้
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสถาบันการเงินพุ่งนำตลาดปิดเคลื่อนไหวในแดนบวกกันถ้วนหน้า ซึ่งนำโดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ที่ขยายตัวขึ้นกว่า 5% ส่วนหุ้นลอนดอน สต็อก เอ็กซ์เชนจ์ กรุ๊ป ขยายตัวได้เกือบ 3% หลังจากที่ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ ขณะที่หุ้นบาร์เคลย์ฟื้นตัว 2.3% หลังจากที่เมื่อวานนี้ทรุดฮวบลง 8%