นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.ขอให้บริษัทจดทะเบียนรายงานผลกระทบจากกรณีดูไบเวิลด์ภายในสัปดาห์นี้ แต่จากการประเมินเบื้องต้นพบว่าบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ที่ลงทุนและมีความเกี่ยวข้องในดูไบมีไม่มาก และบางโครงการได้ถอนจากการลงทุนไปแล้ว ทำให้มองว่าคงไม่มีบริษัทได้รับผลกระทบมาก แต่ยังต้องรอดูผลกระทบทางอ้อม
และรอการประเมินว่าการพักชำระหนี้ของดูไบเวิลด์จะกระทบประเทศไทยหรือไม่ แต่การที่ดูไบเวิลด์มาลงทุนในไทย คงไม่มีผลกระทบ เพราะจำนวนเงินน้อย แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นอยากให้ติดตามดู และไม่อยากให้นักลงทุนตื่นตระหนกมากเกินไป
"ผลกระทบต่อไทยมีไม่มาก เพราะไทยอยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และอยากให้ดูผลทางอ้อมก่อน"นางภัทรียา กล่าว
นายวิรไท สันติประภพ รองผู้จัดการ สายงานพัฒนาและวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลท.กล่าวว่า กรณีปัญหาดูไบเวิลด์คงส่งผลทางจิตวิทยามากกว่าผลกระทบโดยตรง โดยส่วนใหญ่ดูไบจะระดมทุนด้วยการออกพันธบัตร ขณะที่ในบ้านเราไม่มีการลงทุนในดูไบเวิลด์มากหนัก จึงมองว่าไม่น่าจะมีปัญหา ประกอบกับ ดูไบเวิลด์ไม่ใช่สถาบันการเงิน แตกต่างจากกรณีของบริษัท เลห์แมนฯ ล้ม ทำให้เกิดการล้มต่อเนื่องกันไป
ดูไบเวิลด์เป็นการกู้เงินมาลงทุน ถ้าเกิดปัญหาก็คงเกิดเฉพาะในดูไบ ส่วนรัฐอาบูดาบียังมีสถานะการเงินที่ดี อีกทั้งการลงทุนในกองทุนขนาดใหญ่ของดูไบ ก็เป็นอาบูดาบีมากกว่า และมองว่าไม่มีผลต่อตลาดหุ้นไทยมาก และปัจจุบัน Fund Flow ไหลเข้ามาในเอเชียมาก แต่ช่วงแรกยอมรับว่าเป็นไปได้ที่นักลงทุนอาจจะกังวลกับเศรษฐกิจของประเทศที่เกิดใหม่ แต่ถ้าดูความเชื่อมโยงประเทศเอเชียกับตะวันออกกลาง ยังไม่น่ามีผลกระทบมากนัก เพราสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE)ยังมีช่องทางในการดึงเงินเข้ามาลงทุน
สำหรับกรณีบริษัท นาคีล ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของดูไบเวิลด์ที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไทย มองว่าอาจสะดุดในการทำธุรกิจบ้าง แต่ไม่น่ากระทบมากเพราะเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่ถ้าบริษัทแม่ต้องการเงินลงทุนอาจจะมีการขายสินทรัพย์ในไทยบ้าง แต่ไม่มากจนเกิดผลกระทบ เพราะมีการดำเนินการเพียง 2-3 โครงการเท่านั้น