นายเกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เกียรติธนาขนส่ง(KIAT) ตั้งเป้ารายได้และกำไรในปี 53 จะเติบโตราว 10-15% จากปีนี้ ตามภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวและการเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น งานขนส่งสินค้าเชื้อเพลิง พลังงาน สารเคมี วัตถุอันตรายทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการเข้าประมูลงานขนส่งสารเคมีที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งเป็นฐานลูกค้าใหม่ และจากการที่ประเทศไทยยังพึ่งพาการขนส่งทางบกสูงถึง 85% จึงเป็นโอกาสดีของบริษัท
"ปีนี้เราคิดว่ารายได้เราได้ 480 ล้านบาท ปีหน้าน่าจะมีรายได้ 500 กว่าล้านบาท ก็หวังว่าเศรษฐกิจที่ดีขึ้นก็จะทำให้เรามีการขนส่งมากขึ้น"นายเกียรติชัย กล่าว
ในปีหน้าบริษัทจะมีการขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเตรียมเจรจากับลูกค้าในลาว เวียดนาม กัมพูชา และมาเลเซีย หลังจากที่บริษัทมีลูกค้าจากลาวที่ว่าจ้างขนส่งวัตถุอันตราย โดยมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 10% ขณะที่ในประเทศได้เข้าประมูล 3-4 ราย คาดว่าจะรู้ผลในช่วงไตรมาส 2/53 รวมทั้งคาดว่า บมจ.ปตท.(PTT)จะต่อสัญญาการขนส่งก๊าซ NGV ที่ขอนแก่นในปีหน้าด้วย
ล่าสุด บริษัทได้รับสัญญาการขนส่งก๊าซ NGV ที่สถานีของ PTT ที่ขอนแก่นในปริมาณที่เพิ่มขึ้นเป็น 150 ตัน/วัน จากช่วงต้นปี 52 ที่มีปริมาณการขนส่ง 60-70 ตัน ซึ่งตามแผนที่ ปตท.ขอนแก่นได้วางไว้ต้องการถึง 200 ตัน/วัน โดยเชื่อว่าบริษัทจะได้รับงานอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น คณะกรรมการ บมจ.ผาแดงอินดัสตรี(PDI)ยังอนุมัติต่อสัญญาว่าจ้างให้บริษัทเป็นผู้ขนส่งผลผลิตจากเหมือง ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองค่าจ้าง
นายเกียรติชัย กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจของบริษัทในช่วงที่เหลือของปีนี้น่าจะยังคงขยายตัวได้อีก จากแผนการขยายการให้บริการขนส่งทั้งภายในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าของบริษัท อีกทั้งยังรับรู้รายได้จากการขนส่งก๊าซ NGV ให้กับกลุ่ม PTT ซึ่งคาดว่าจะมีการต่อสัญญาต่อเนื่อง
พร้อมทั้งย้ำว่าตั้งแต่ปี 53-55 บริษัทจะได้รับการลดหย่อนภาษีหลังเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai) และการได้ประโยชน์จากการรับโอนกิจการของบริษัท เคมทรานส์ จำกัด ซึ่งทำให้ประหยัดภาษีมากขึ้น
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/52 คาดว่ารายได้และกำไรจะเติบโตดีกว่าไตรมาส 3/52 ทั้งปีคาดว่าจะมีรายได้ไม่น้อยกว่าปีก่อนที่ทำได้ 480 ล้านบาท ตามอุตสาหกรรมพลังงานและปิโตรเคมี รวมถึงการบริการด้านโลจิสติกส์ อีกทั้งบริษัทยังเข้าประมูลงานใหม่อย่างสม่ำเสมอ จึงคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังได้ จากครึ่งปีแรกจ่ายไป 0.20 บาท/หุ้น
"ไตรมาส 4 เราคิดว่าผลประกอบการไม่น่าจะแตกต่างจากไตรมาส 3 ก็คงจะมีกำไรมากพอที่จะจ่ายเงินปันผลในงบปลายปีอีกรอบหนึ่ง"นายเกียรติชัย กล่าว