นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า ในปี 53 บริษัทฯ มีเป้าหมายรายได้อยู่ที่ 193,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.7% จากปี 52 มีกำไรก่อนภาษีและอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 4,300 ล้านบาท EBITDA 32,000 ล้านบาท
สำหรับเป้าหมายของปริมาณการผลิตและการขนส่งปี 53 กำหนดปริมาณที่นั่ง (ASK) ไว้ที่ 80,000 ล้านที่นั่ง-กิโลเมตร ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร(RPK) 59,000 ล้านคน-กิโลเมตร เพิ่มขึ้น 13.2%จากปี 2552 อัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) 74% ปริมาณการผลิตสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ADTK) 4,400 ล้านตัน-กิโลเมตร ปริมาณการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (RFTK) 2,200 ล้านตัน-กิโลเมตร เพิ่มขึ้น 14.0% จากปี 52
"การพัฒนาองค์กรจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มในปี 2553 ซึ่งเป็นปีที่การบินไทยจะต้องสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งขององค์กร ปี 2554 เป็นปีที่การบินไทยจะต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน หลังจากนั้นตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป จึงจะเป็นปีที่การบินไทยจะสามารถเติบโตตามการขยายตัวของบริษัทฯ และนำบริษัทฯ ไปสู่ความยั่งยืนได้ในที่สุด" นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า การกำหนดเป้าหมายดังกล่าวอยู่ในแผนกลยุทธ(ปี 53-57)ของบริษัทที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกับงบประมาณประจำปี 53-54 โดยคณะกรรมการบริษัทฯ มีข้อสังเกตบางประการที่มอบหมายให้ฝ่ายบริหารรับไปปรับปรุง และนำเสนอคณะกรรมการบริษัทฯ อีกครั้งในวันที่ 18 ธ.ค.52 หลังจากนั้นจึงจะนำไปสู่การปฏิบัติ Mission TG 100 เพื่อให้การบินไทยสู่อนาคตที่แข็งแกร่งและเติบโตก้าวหน้าต่อไปอย่างยั่งยืนอีก 50 ปี
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้อนุมัติให้ปรับปรุงที่นั่งบนเครื่องบินแบบ โบอิ้ง 747 จำนวน 12 ลำ ซึ่งให้บริการในเส้นทางยุโรปเป็นหลักและเป็นเส้นทางที่สร้างรายได้เป็นอย่างมาก เครื่องบินโบอิ้ง 747 ยังเป็นเครื่องบินที่ให้บริการครบทั้ง 3 ระดับ คือ ชั้นประหยัด ชั้นธุรกิจ และ ชั้นหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงดังกล่าวต้องใช้เวลาถึง 2 ปี จึงจะดำเนินการได้ครบทั้ง 12 ลำ ดังนั้น ในช่วงของการปรับเปลี่ยนนี้ ฝ่ายบริหารจึงได้นำยุทธศาสตร์การบริการด้านอื่นๆ เข้าไปทดแทน เช่น การปรับปรุงเมนูอาหาร การดูแลปรับปรุงทุกจุดสัมผัสให้มีมาตรฐานการให้บริการที่เหมือนกัน ซึ่งฝ่ายบริหารจะต้องเร่งดำเนินการในทันที