ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งแตระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเงินของดูไบ นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับตัวเลขการผลิตของจีนที่แข็งแกร่ง
ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 121.49 จุด ปิดที่ 5,312.17 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,190.68-5,312.17 จุด
นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องปัญหาการเงินของดูไบหลังจากบริษัท ดูไบ เวิล์ด เริ่มเจรจากับธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งครอบคลุมถึงตราสารหนี้อิสลามมูลค่าราว 3.6 พันล้านดอลลาร์ที่ออกโดยนาคีล เวิลด์ บริษัทในเครือซึ่งเป็นผู้พัฒนาคฤหาสถ์หรูหราบนหมู่เกาะรูปต้นปาล์ม นอกจากนี้ ธนาคารกลางยูเออีได้จัดกองทุนกู้ยืมพิเศษเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารพาณิชย์และเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเลื่อนชำระหนี้ของดูไบ เวิล์ด
สมาพันธ์ธุรกิจลอจิสติกส์และการจัดซื้อของจีนรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความแข็งแกร่งในภาคการผลิต อยู่ที่ระดับ 55.2 จุดในเดือนพ.ย. ซึ่งทรงตัวจากเดือนต.ค. โดยดัชนีที่ระดับดังกล่าวยังคงบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 18 เดือน หลังจากจีนประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนีภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของจีนช่วยและราคาทองแดงที่ดีดตัวขึ้นหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นด้วย โดยหุ้นริโอทินโต ปิดบวก 4% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดพุ่ง 3.5% หุ้นยูเรเซีย เนเชอรัล รีซอสเซส ปิดบวก 4.4% หุ้นเอ็กสตราต้าปิดพุ่ง 6.3% ส่วนหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปิดบวก 2.1% หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับรายงานจากสมาคมธุรกิจสร้างบ้านแห่งชาติของอังกฤษที่ระบุว่า ราคาบ้านในอังกฤษปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ย. หรือปรับตัวขึ้นโดยเฉลี่ย 2.4% ต่อปี ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของอังกฤษเริ่มฟื้นตัวขึ้น