นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บมจ. โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) เปิดเผยว่า บริษัทยังมั่นใจว่าปี 53 จะยังโต 20% ทั้งรายได้และกำไร จากปีนี้ที่ทำยอดขายและรายได้ได้ตามเป้าคือ โต 20% มาที่ 7.2 พันล้านบาท หลังงวด 9 เดือน บริษัทมีรายได้แล้ว 5,197 ล้านบาท และมีกำไรสสุทธิ 613 ล้านบาท โดยจากการเติบโตของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่เติบโตเฉลี่ยไตรมาสละ 20%
สำหรับแผนงานนับจากนี้ไปจะยังให้ความสำคัญกับธุรกิจอาหารและธุรกิจเครื่องดื่มเท่าๆกัน โดยปี 53 จะยังใช้งบลงทุนประมาณ 12% ของยอดขายทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะยังมีออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง และงบสำหรับการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบ
นอกจากนี้ในส่วนของโรงงานใหม่ ซึ่งเป็นโรงงานที่ 3 ที่นวนคร ก็กำลังเดินหน้าการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ในส่วนของการลงเสาเข็มและรากฐานเสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเสร็ขตามกำหนดในอีก 14 เดือนข้างหน้า
ล่าสุดได้ประกาศรุกตลาดเครื่องดื่มประเภท functional drink เต็มตัวปี 53 ด้วยการปรับภาพลักษณ์ "Amino OK" เป็น "Amino Plus"หลังจากได้เปิดตัวสินค้านี้เมื่อ 4 ปีก่อน และปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่ม Functional Drink แบบ RTD (Ready to Drink) ประมาณ 12-15% อยู่ในอันดับ 2 และ 3 ใกล้เคียงกับ Being แล้วแต่ว่าช่วงในใครจะมากกว่ากัน ส่วนอันดับ 1 เป็นยี่ห้อ"Zeppe"ของบริษัท Beauty Drink ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ประมาณ 30%
ทั้งนี้ การปรับภาพลักษณ์ใหม่ของ Amino Plus ครั้งนี้ ถือเป็นการ Relaunch หลังจากที่ผ่านมาผู้บริโภคยังไม่ค่อยรู้จักและเข้าใจเครื่องดื่มประเภท Functional Drink เท่าไหร่นัก แต่หลังจากทำการสำรวจตลาดล่าสุดพบว่า พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป มีความรักและใส่ใจสุขภาพมากขึ้น อีกทั้งทางบริษัทได้ทำการพัฒนาคุณภาพสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา ด้วยการเพิ่มกรดอะมิโนจำเป็นจาก 5 ชนิดเป็น 7 ชนิด แต่ละชนิดมีปริมาณมากขึ้น โดยแบ่งสินค้าออกเป็น 2 ประเภท คือ Amino Plus Shot เครื่องดื่มสุขภาพชนิดเข้มข้นที่มีส่วนผสมของกรดอะมิโนจำเป็น 7 ชนิด ซึ่งถือเป็นสินค้าใหม่ในตลาด Functional Drink ประเภท Shot ซึ่งปัจจุบันเจ้าตลาดคือ Pepteen ของโอสถสภา
นายตัน กล่าวว่า บริษัทจะใช้งบการตลาดโฆษณาประชาสัมพันธ์สำหรับ Amino Plus ประมาณ 100 ล้านบาท ในช่วงระยะเวลา 3 เดือน โดยคาดหวังว่าจะมียอดขายประมาณ 800 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งตลาดใน Functional Drink เพิ่มเป็น 30% และขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดแทน ขณะที่มูลค่าตลาดรวมของ Functional Drink ก็จะเติบโตแบบก้าวกระโดดเป็น 300-400% จากปัจจุบันที่ตลาดรวมมีมูลค่า 2 พันล้านบาท แตบโต 100%
"ผมว่าปีหน้า ตลาด Functional Drink จะโตถึง 300-400% และจะมีรายใหม่ๆ เข้ามาในตลาดอีกอย่างน้อย 5-6 รายทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ แต่ละเจ้าก็จะพยายามแข่งขันในเรื่องของคุณภาพ ซึ่งทางโออิชิเรามั่นใจในเรื่องของคุณภาพและรสสชาติที่อร่อย"นายตัน กล่าว