นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขอให้ทางเครือ บมจ.ปตท.(PTT) และ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC) ชี้แจงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากหลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีการอ่านคำพิพากษาโครงการลงทุนในมาบตาพุด เพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลที่ชัดเจนในการประกอบการตัดสินใจในการลงทุน
ทั้งนี้ ประเด็นที่ตลาดหลักทรัพย์ฯให้บจ.แต่ละแห่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการ 76 โครงการชี้แจงนั้น คือ โดยให้อธิบายคำสั่งของศาลฯที่ออกมานั้นกระทบกับบริษัทอย่างไร มีโครงการไหนที่ได้รับอนุมัติให้สามารถลงทุนต่อได้ จากที่ศาลฯอนุมัติให้ลงทุนได้ 11 โครงการ และโครงการไหนที่ยังถูกระงับการลงทุนต่อไป และผลกระทบที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร พร้อมทั้งให้แจ้งมูลค่าโครงการที่ยังคงถูกสั่งระงับการลงทุน โดยคาดว่าคงจะมีการชี้แจงได้ในช่วงเย็นวันนี้ และในวันพรุ่งนี้(3 ธ.ค.)
สำหรับโครงการที่ยังคงถูกระงับในการลงทุน 65 โครงการนั้น เชื่อว่าคณะกรรมการ 4 ฝ่ายจะเร่งดำเนินการหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว และทางรัฐบาลก็พยายามที่จะแก้ไขปัญหา ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.)มีอนุมัติโครงการต่าง ๆ ที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม นางภัทรียา กล่าวว่า โดยส่วนตัวอยากให้ทุกฝ่ายได้คิดร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหา เพราะโครงการที่ถูกชะลอออกไปนั้นกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และการจ้างงาน โดยอยากให้ทุกฝ่ายมองถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
นางภัทรียา กล่าวการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า มีความผันผวนจากนักลงทุนที่ยังกังวลกับการตัดสินของศาลฯ ซึ่งหลังจากที่ศาลฯ ได้มีคำตัดสินออกมาแล้วนั้น ก็มองว่านักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศยังคงมีความกังวลอยู่จากที่ยังรอข้อมูลที่ชัดเจนว่าแต่ละบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้นจะมีผลกระทบอย่างไร ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าแต่ละบริษัทจะมีมูลค่าโครงการที่กระทบเท่าไร ต้องรอให้แต่ละบริษัทชี้แจงก่อน แต่จากการที่มีการประกาศในช่วงก่อนหน้านี้ 76 โครงการมีมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 3-4 แสนล้านบาท