ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) ซึ่งเป็นการปิดลบวันแรกในรอบ 3 วันทำการ หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการที่หดตัวลงอย่างรุนแรง นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาโลหะได้ฉุดราคาหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดิ่งลงด้วย และยังส่งผลบดบังการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 14.39 จุด แตะที่ 5,313.00 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาลงหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่าดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.หดตัวลงสู่ระดับ 48.7 จุด จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 50.6 จุด โดยดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคบริการ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.จะเพิ่มขึ้นระดับ 51.5 จุด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหลังจากราคาโลหะทองแดงและนิกเกิ้ลในตลาดลอนดอนร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กสตราต้าปิดลบ 3.8% หุ้นริโอทินโตปิดร่วง 3.3%
ส่วนหุ้นธนาคารทะยานขึ้นหลังจากมีรายงานว่าแบงค์ ออฟ อเมริกา ผู้ปล่อยกู้รายใหญ่สุดในสหรัฐ เตรียมจ่ายเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์คืนรัฐบาล ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารหลุดพ้นจากกฎการจ่ายค่าตอบแทนผู้บริหารที่เข้มงวดของรัฐบาล โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ปิดบวก 2.4% หุ้นธนาคารลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ปิดพุ่ง 4.4% และหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด พุ่งขึ้น 4.7%