ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขอัตราว่างงานเดือนพ.ย.ที่ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 10% จากระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี ที่ 10.2% เมื่อเดือนต.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงานเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนคลายความวิตกเรื่องเศรษฐกิจลงได้ระดับหนึ่ง
ดัชชนีดาวโจนส์บวก 22.75 จุด หรือ 0.2% ปิดที่ 10,388.90 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 บวก 6.06 จุด หรือ 0.6% ปิดที่ 1,105.98 จุด และดัชนี Nasdaq บวก 21.21 จุด หรือ 1% ปิดที่ 2,194.35 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า นายจ้างสหรัฐลดจำนวนพนักงานต่ำกว่าคาดการณ์ 11,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. บ่งชี้ว่าภาวะถดถอยในตลาดแรงงานอยู่ในช่วงสุดท้ายแล้ว
ขณะที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ย.ลดลงไป 11,000 ตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ที่คาดว่า ตัวเลขดังกล่าวจะลดลงไปมากกว่านี้
ทางด้านนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐกล่าวว่า ตลาดแรงงานอาจจะปรับตัวขึ้นดีขึ้นกว่านี้เมื่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังได้รายงานว่า ยอดคำสั่งซื้อสินค้าโรงงานสหรัฐเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา โดยคำสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงานเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 0.6% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 1.6% ในเดือนก.ย.
หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา พุ่ง 3.3% และหุ้นมอนสเตอร์ เวิลด์ไวด์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดหาพนักงานแบบออนไลน์รายใหย่ ทะยาน 12% ขานรับตัวเลขว่างงานที่ลดลง