นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวทรง ๆ ตัว เนื่องจากตลาดฯยังไม่ได้มีปัจจัยอะไรเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ซึ่งก็ไม่ได้มีนัยอะไร
นอกจากนี้ สัปดาห์นี้ตลาดบ้านเราจะมีการเทรดอยู่แค่ 3 วันทำการเท่านั้น ดังนั้นเชื่อว่าตลาดฯคงจะไม่เคลื่อนไหวไปได้ไกลมาก โดยสิ่งที่ตลาดฯยังจับตาดูอยู่ยังเป็นเรื่องของมาบตาพุด ซึ่งก็ได้มีการมองไปที่หุ้นตัวใหญ่ อย่าง PTT ว่าจะมีการชี้แจงและหาแนวทางแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไรบ้าง
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังมีความคาดหวังอยู่กับ Flow ของต่างชาติ มองแล้วที่ผ่านมาต่างชาติก็ไม่ได้มีการ take action เท่าไร ดังนั้นเชื่อว่าเม็ดเงินยังไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายออกจากประเทศไปไหน
พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 695 จุด แนวต้าน 718 จุด พร้อมแนะหากหุ้นขึ้นให้ขายก่อน และเมื่อตลาดย่อก็ค่อยมาพิจารณากันอีกที
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(7 ธ.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,390.11 จุด เพิ่มขึ้น 1.21 จุด(+0.01%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,103.25 จุด ลดลง 2.73 จุด(-0.25%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,189.61 จุด ลดลง 4.74 จุด (-0.22%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 116.65 ล้านบาทเมื่อ 4 ธ.ค.52
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 73.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.54 ดอลลาร์หรือ 2.04%
- ส่งออก "สิ่งทอ-เกษตร"ผวาเวียดนามลดค่าเงินด่องซ้ำ กระทบขีดความสามารถการแข่งขัน ประเมินลดค่าเงินลงถึง 20% ลูกค้าหนีซบตลาดเวียดนามหมด กลุ่มเครื่องนุ่งห่ม คาดเสื้อผ้าเด็กกระทบหนักสุดใน 3-5 เดือนข้างหน้า กดดันไทยลดราคาสินค้าตาม ขณะที่ผู้ส่งออกข้าว-กุ้ง ชี้ผู้นำเลือกลงออเดอร์เวียดนามก่อนไทย กระทบรายได้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง จี้รัฐดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาท "พรทิวา"แนะปรับปรุงคุณภาพสินค้า ลดปัจจัยด้านราคา
- ปลัดอุตสาหกรรมเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีก๊าซรั่วที่ท่าเรือมาบตาพุด สั่งตรวจสอบแผนฉุกเฉินของทุกหน่วยสร้างความเชื่อมั่นชุมชน กนอ.ส่งเจ้าหน้าที่ดูแลเข้มงวด ชี้เกิดจากเซฟตี้วาล์วชำรุด ขณะที่ผู้ว่าฯ ระยองแจ้งความดำเนินคดีเจ้าของเรือแล้ว ด้าน ส.อ.ท.ห่วงภาพลักษณ์มาบตาพุดแย่ลง
- รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)ระบุ 8 ธ.ค.คณะกรรมการร่วมเอกชน 3 สถาบัน(กกร.)นัดหารือประจำเดือน โดยมีวาระสำคัญเกี่ยวกับผลกระทบจากกรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งระงับโครงการในมาบตาพุด 65 โครงการ ซึ่งจะเชิญผู้บริหารจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)มาร่วมหารือถึงแนวทางการปฏิบัติตามคำสั่งศาล รวมถึงทิศทางการดำเนินงานในอนาคต
- หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธนาคารโลก เรียกร้องประเทศต่างๆ ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไปอีก 3 ปี หากหวังสร้างฐานการเติบโตระยะยาวที่ยั่งยืน ขณะญี่ปุ่นเตรียมเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 24 ล้านล้านเยน หนุนการฟื้นตัวหลังเจอเยนแข็งค่าบวกเงินฝืด
- ธปท.เดินหน้าให้ บสย. หารือกับกระทรวงการคลังต่ออายุโครงการค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอีออกไปอีก 1 ปี พร้อมขยายวงเงินค้ำ-ยกเว้นค่าธรรมเนียมต่อ และเปิดทางแบงก์ต่างชาติร่วมโครงการตามข้อเรียกร้องเอสเอ็มอี ส่วนปีนี้คาดไปไม่ถึงเป้าได้แค่ 2 หมื่นล้านบาท
- สำรวจ 3 เดือนที่ผ่านมา กองทุนต่างชาติทยอยซื้อหุ้นขนาดใหญ่เข้าพอร์ตลงทุน เน้นกลุ่มแบงก์ โบรกฯ รับเหมา อสังหาริมทรัพย์
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ หวังปี 53 สรรพากรไฟเขียวให้สิทธิภาษีถาวรแก่บริษัทจดทะเบียน หนุนเข้ามาซื้อขายในตลาดมากขึ้น อีกทั้งช่วยรัฐลดต้นทุนและมีประสิทธิภาพในการเก็บภาษีดีขึ้น ด้าน"วิเชฐ"เตรียมเดินหน้าผลักดันออกเกณฑ์ไพรมารีปีหน้า เบื้องต้นบริษัทต่างชาติที่จะเข้าจดทะเบียนในไทยเป็นตลาดแรก ต้องมีผู้สอบบัญชีติดอันดับ TOP ของโลก สร้างความเชื่อมั่นในเรื่องฐานะการเงิน
- สคร.ถก"ตลท.-ก.ล.ต."ดันบริษัทลูกรัฐวิสาหกิจเข้าจดทะเบียนใน "ตลาดเอ็มเอไอ" ปีหน้า ให้บริษัทสมุนไพรไทยที่องค์การเภสัชฯ ถือหุ้นทำเป็นโครงการนำร่องหลังพบกิจการดีมีศักยภาพและมีความต้องการเงินทุนขยายโรงงาน 1 พันล้านบาท เล็งดึง"อีแกต อินเตอร์"บริษัทลูก กฟผ.เข้าตามหลังโรงไฟฟ้าในพม่า-ลาวเปิดเดินเครื่องปั่นไฟ