ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของธนาคารรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ (อาร์บีเอส) ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหนี้ของบริษัท ดูไบ เวิล์ด หลังจากมีข่าวว่าบริษัท นาคีล พีเจเอสซี ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือดูไบ เวิล์ด ดิ้นรนเจรจาเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 87.53 จุด ปิดที่ 5,223.13 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,206.38 - 5,323.36 จุด
หุ้นอาร์บีเอสดิ่งลง 7.7% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่านาคีลอาจผิดนัดชำระหนี้ หลังจากทางบริษัทพยายามขอเจรจาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้กับอาร์บีเอส โดยนาคีลขาดทุนช่วงครึ่งปีแรก 3.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเนื่องจากรายได้หดตัวลงและราคาอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำลง
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับหนี้สินของดูไบส่งผลให้ดัชนี DFM General Index ตลาดหุ้นดูไบดิ่งลงหนักสุดในรอบ 5 เดือน และทำสถิติร่วงลงหนักสุดเมื่อเทียบกับบรรดาตลาดหุ้นแห่งอื่นๆของโลก โดยหุ้นเอมาร์ พร็อพเพอร์ตีส์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ดิ่งลงหนักสุด
นอกจากนี้ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้ปรับลดอันดับเครดิตของบริษัท 6 แห่งที่อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลดูไบ โดยกล่าวว่ารัฐบาลดูไบอาจไม่สามารถรับประกันหนี้สินของบริษัททั้ง 6 แห่งได้
หุ้นเทสโก้ร่วงลง 2.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในอังกฤษช่วงไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นเพียง 2.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ที่ยอดขายพุ่งขึ้น 3.1% ส่วนหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดร่วง 2.8%