หุ้น BANPU ร่วงต่อ 4.83% อยู่ที่ 512.00 บาท ลดลง 26.00 บาท เมื่อเวลา 12.12 น.โดยเปิดตลาดที่ 536.00บาท ขึ้นสูงสุดที่ 536.00 บาท และลงต่ำสุดที่ 512.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,014.16 ล้านบาท
นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้น บมจ.บ้านปู (BANPU) ร่วงแรง เพราะผู้ถือหุ้นใหญ่ขายออกหุ้นมาเยอะตั้งแต่ช่วง 2-3 วันก่อน ซึ่งบางโบรกฯเมื่อเห็นรายงานการขายของผู้บริหาร ก็แนะให้ขายออกมา ประกอบกับ ภาพรวมตลาดไม่ดีด้วย แต่มองว่าไม่น่าตกใจ เพราะทุกรอบจะเป็นเช่นนี้เวลาหุ้น BANPU ขึ้นจะขึ้นเกินพื้นฐานนิดหน่อย เวลาลงก็จะลงต่ำกว่าพื้นฐานเล็กน้อย
ส่วนการที่เจ้าของรายงานตลาดหลักทรัพย์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะมีสิทธิจะซื้อจะขาย โดยรวมไม่ได้มีพื้นฐานอะไรเปลี่ยนแปลง มองระยะยาวก็ยังดีอยู่ ให้ราคาเป้าหมาย 580 บาท
"ผู้ถือหุ้นใหญ่มีการรายงานการขายออกมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพ.ย.ซึ่งเป็นสิทธิ ไม่ได้มองเป็นประเด็นเพราะท้ายที่สุดแล้ว BANPU ไม่ได้รับผลกระทบจากมาบตาพุดด้วย" นายรักพงศ์ กล่าว
ด้าน บล.ธนชาตระบุหุ้น BANPU ลงวานนี้เชื่อว่ามาจาก 2 สาเหตุหลัก ผู้บริหารเทขายหุ้นออกมาโดยล่าสุด (2-3 ธ.ค.) ขายสุทธิรวม 10,000 หุ้น @ 549 บาท แต่หากนับแต่พ.ย.ที่ผ่านมา ขายออกไปสุทธิรวม 180,000 หุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 508 บาท/หุ้น ได้เงินไปรวม 92 ลบ. สามารถตีความทางอ้อมได้ว่าที่ราคาเกิน 500 บาท นั้นสูงเกินไปในสายตาของผู้บริหาร
ราคาทะลุเป้าเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์ใน Bloomberg ให้ไว้ที่ 530 บาทไปแล้ว จึงเกิดแรงขายทำกำไรในระยะสั้น
แต่ในเชิงปัจจัยพื้นฐานยังมีมุมมองเชิงบวกต่อ BANPU จากราคาถ่านหินขาขึ้นและอัพไซค์จากโรงไฟฟ้าหงสา พร้อมขยับเป้าขึ้นอีก 70 บาท เป็น 600 บาท
ในเชิงกลยุทธ์สำหรับ BANPU คือ "ขายก่อนแล้วลงมาซื้อแถวๆ 500 บาท หรือต่ำกว่า"