ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำขอ กำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์เป็นการขั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องคดีที่ขอให้ศาลมีคำสั่งปิดบ่อขยะของ บมจ.เบตเตอร์ เวิล์ด กรีน(BWG) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตต่อเนื่องของราษฎรที่พักอาศัยและทำมาหากินในพื้นที่ ต.หนองปลาไหล ต.กุดนกเปล้า อ.เมืองสระบุรี และ ต.ห้วยขาแข้ง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
ศาลปกครอง พิเคราะห์แล้วว่ายังไม่ปรากฎข้อเท็จจริงที่แน่ชัดว่า ผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อมเกิดจากการประกอบการกิจการโรงงานฝังกลบกากขยะอุตสาหกรรมของ BWG ดังนั้นจากเหตุผลดังกล่าวจึงเห็นว่าในชั้นนี้ยังไม่มีเหตุเพียงพอที่ศาลจะนำมาตรการหรือวิธีการคุ้มครอบเพื่อบรรเทาทุกข์เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษาตามคำข้อของผู้ฟ้องคดีทั้ง 6 รายมาใช้ได้
ทั้งนี้ กรณีความเดือดร้อนเกี่ยวกับกลิ่นเหม็นและน้ำเน่าเสียจากบ่อฝังกลบกากขยะอุตสาหกรรมที่เป็นมูลเหตุแห่งหารฟ้องคดีนั้น ศาลฯเห็นว่าสามารถปรับปรุงแก้ไขหรือปฏิบัติให้ถูกต้องเพื่อขจัดสาเหตุของกลิ่นเหม็นและน้ำเน่าเสียที่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ฟ้องกับพวกตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยโรงงาน
ในคดีนี้แม้ว่าศาลจะรับคำฟ้องไว้พิจารณา โดยเห็นว่าเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กำหมายกำหนด ซึ่งถือว่าคดีมีมูล แต่เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า BWG ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการกิจการโรงงานฝังกลบกากขยะอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นอันตรายตามใบอนุญาตลงวันที่ 31 ก.ค.50 และแจ้งประกอบกิจการเมื่อ 5 ม.ค.51 ต่อมาก็ได้รับใบอนุญาตให้ขยายโรงงนครั้งที่ 1 ตามใบอนุญาตลงวันที่ 27 ก.ย.40 ได้รับใบอนุญาตให้ขยายโรงงานครั้งที่ 2 ลงวันที่ 22 พ.ค.45 และได้รับใบอนุญาตให้ขยายโรงงานครั้งที่ 3 ตามใบอนุญาตลงวันที่ 22 พ.ค.46 ให้ประกอบกิจการปรับปรุงคุณภาพของเสียรวมและรับฝังกลบปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่เป็นอันตรายและบำบัดน้ำเสียรวม
ต่อมาในปี 42 ได้มีประชาชนส่งหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี และหน่วยงานราชการต่างๆ ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการโรงงงานฝังกลบกากขยะอุตสาหกรรมของ BWG และได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้โรงงานแก้ไขปรับปรุงเป็นระยะๆ
แต่ประชาชนในได้ยื่นฟ้องศาลปกครองกลางเมื่อ 1 ธ.ค.46 และ 12 ธ.ค.46 ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการฝังกลบวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตรายและไม่เป็นอันตราย และเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพทุกฉบับ และ ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาเมื่อ 15 มี.ค.50 ยกฟ้องทั้งสองสำนวน ได้วินิจฉัยว่าโรงงานของ BWG ซึ่งประกอบกิจการฝังกลบขยะอุตสาหกรรมที่เป็นมูลเหตุแห่งการฟ้องคดีนั้นได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO9000:2000 และ ISO 14000:2004 และเป็นทีศึกษาดูงานของสถานการศึกษา หน่วยงานภาคเอกชนและภาคราชการทั้งภายในและนอกประเทศ อีกทั้ง BWG ได้ดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องตามคำสั่งของหน่วยงานราชการทุกครั้ง
ฉะนั้น ผู้ฟ้องคดีทั้ง 6 ราย ได้ยื่นอุทธรรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองกลางทั้งสองสำนวน ซึ่งในขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจาณาของศาลปกครองสูงสุด ต่อมานายคูณทวี ภาวรรณื ซึ่งเป็นผู้ฟ้องที่ 1 กับพวก เพื่อร้องขอให้ศาลมีคำสั่งปิดโรงงานของ BWG เป็นการชั่วคราวจนกว่ามีคำพิพากษา จนกระทั่งศาลมีคำสั่งยกคำร้องในวันนี้