นายวรวัจน์ สุวคนธ์ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ด้านวาณิชธนกิจ(IB)ในปี 53 ที่ 250 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 52 ที่รายได้ IB เป็นไปตามเป้าหมายที่ 190 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนดีล M&A และ IPO มีขนาดใหญ่ขึ้นและจำนวนมากขึ้นจากปีนี้
"ต้องยอมรับว่าปี 52 รายได้ IB จะยังไม่ค่อยได้มากตามที่บริษัทแม่ตั้งไว้ให้เราทำที่ 300 ล้านบาท แต่การที่ทำได้ 190 ล้านบาท ถือว่าพอใจภายใต้ภาวะที่ผันผวน เพราะถึงแม้ตอนนี้เริ่มมีสัญญาณที่ดีของภาพรวม แต่เราก็ยังให้ความสำคัญหรือเน้นหนักที่ M&A เพราะการที่เรามีจุดแข็งในเรื่องของ Financing ให้ และมี Solution อย่างกรณี SVI ซึ่งจะเป็นรูปแบบใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น และในปีหน้า ดีลก็มีขนาดใหญ่ขึ้น และถ้าเราได้ดีลที่มีไซส์ใหญ่อาจทำให้รายได้เกินที่วางไว้ก็ได้" นายวรวัจน์ กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 52 สัดส่วนรายได้ IB คิดเป็น 25% ของรายได้รวม
นายวรวัจน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้บริษัทมีดีล M&A ที่แน่นอนแล้วจำนวน 8 ดีล มูลค่าประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นบริษัททั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ ฯ และยังอยู่ระหว่างการเจรจาอีก 4 ดีล โดยดีล M&A ดังกล่าว อาทิ ธุรกิจ Health care 2 ราย, ธนาคาร 1 ราย, ประกันภัย 1 ราย, อุตสาหกรรมการเกษตร 1 ราย, พลังงาน 2 ราย และ ไอที 1 ราย
"ดีล M&A ถือว่ายังเป็นธุรกิจหลักในด้าน IB ของบริษัท ซึ่งแนวโน้มยังมีต่อเนื่องในปีหน้า จากผลกระทบของเศรษฐกิจที่ชะลอ ทำให้นักลงทุนต่างประเทศที่มีปัญหาในเรื่องสภาพคล่องทำให้ขายธุรกิจออกมา โดยบริษัทต่างชาติส่วนใหญ่จะมีขนาดราว 600-1000 ล้านบาท นอกจากภาวะทางเศรษฐกิจแล้ว ยังมีปัจจัยในเรื่องของมาบตาพุด การเมือง ที่ทำให้นักลงทุนไม่กล้าลงทุน"นายวรวัจน์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทในประเทศที่จะไปลงทุนในต่างประเทศ และ เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทที่มีธุรกิจแบบครอบครัวหรือกึ่งครอบครัว เพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางการบริหาร
ขณะที่ดีลการเสนอขายหุ้น IPO ในปีหน้าจะมีการยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)จำนวน 4 ดีล ประกอบด้วย บริษัทในธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ น้ำตาล และ Special constructure จำนวน 2 ดีล มูลค่าระดมทุนรายละประมาณ 1 พันล้านบาท
นายวรวัจน์ กล่าวว่า ในปีหน้ามองว่าการแข่งขันของธุรกิจที่ปรึกษา M&A ยังมีอยู่สูง เนื่องจากขณะนี้มีบริษัทใหม่ๆที่เกิดขึ้นและสามารถทำธุรกรรมได้ แต่อยู่ที่ว่าใครจะมีจุดเด่นและสามารถปรับตัวได้เร็วกว่ากัน โดยในส่วนของบล.กสิกรไทย มีธนาคารกสิกรไทยช่วยเหลือในแง่ของลูกค้า ซึ่งในดีล M&A ที่มีอยู่ก็เป็นลูกค้าของทางธนาคาร