นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยออยล์ (TOP) คาดว่าในไตรมาส 4/52 ค่าการกลั่นเฉลี่ยระหว่างธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจปิโตรเคมี (GIM) จะอยู่ที่ระดับ 1-2 เหรียญฯ/บาร์เรล เนื่องจากค่าการกลั่นจากธุรกิจน้ำมันที่ยังคงอยู่ระดับต่ำมากตั้งแต่ไตรมาส 3/52 ทำให้ค่าการกลั่นเฉลี่ยไม่ดีนัก
"เชื่อว่า GIM ทั้งปี(52)น่าจะอยู่ในระดับสูงกว่าไตรมาส 4 เพราะครึ่งปีแรก GIM สูงถึง 5 เหรียญฯ/บาร์เรล เพิ่งมาปรับลดลงมากในช่วงครึ่งปีหลัง" นายสุรงค์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในปี 53 GIM จะอยู่ในระดับไม่น้อยกว่า 5 เหรียญฯ/บาร์เรล ขณะที่ค่าการกลั่นน้ำมัน(GRM)จะอยู่ที่ประมาณ 2-3 เหรียญฯ/บาร์เรล ซึ่งถือว่าดีกว่าปีนี้ เนื่องจากการเติบโตเศรษฐกิจของจีนและอินเดียจะส่งให้ความต้องการใช้น้ำมันและปิโตรเคมีเติบโตขึ้น และปัญหาการขาดทุนหรือกำไรจากสต็อกน้ำมันจะไม่เกิดขึ้นมากเหมือน 2 ปีที่ผ่านมา(ปี 51-52)
ทั้งนี้ ในปี 51 บริษัทขาดทุนสต็อกน้ำมันสูงมาก ขณะที่ในปี 52 คาดว่าบริษัทจะมีกำไรจากสต็อกน้ำมันในระดับสูงถึง 30-40 เหรียญฯ/บาร์เรล ซึ่งโดยปกติโรงกลั่นน้ำมันในแต่ละประเทศจะมีสต็อกน้ำมันประมาณ 6 ล้านบาร์เรล ตามข้อกำหนดของภาครัฐ
"ราคาน้ำมันปีหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ 80-85 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งดีกว่าปีนี้เล็กน้อยที่ราคาอยู่ที่ 75-80 เหรียญ/บาร์เรล เชื่อว่าจะส่งผลดีเพราะจะไม่มี impact เรื่อง stock gain หรือ loss เพราะที่ผ่านมา ผลประกอบการโรงกลั่นผันผวนตามราคาน้ำมัน และจะได้รับผลกระทบจากปัญหาสต็อกเป็นหลัก" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TOP กล่าว
สำหรับปีหน้าบริษัทไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ นอกจากการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทเพิ่งจะขยายกำลังการผลิตแล้วเสร็จ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาธุรกิจปิโตรเคมีชั้นปลาย(Downstream)ซึ่งบริษัทยังขาดสินค้าในส่วนนี้ และทาง บมจ. ปตท.(PTT)ก็มีแผนจะลงทุนธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนืองกับกลุ่มปตท.ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมองว่าบริษัทมีโอกาสการลงทุนธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลาย โดยเชื่อว่าไทยออยล์จะเป็นตัวแทนในการลงทุนหลัก