นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) เปิดเผยว่า ในปี 53 บริษัทมีแผนออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าประมาณ 1.5 พันล้านบาท โดยนำ เมเจอร์ อเวนิว รัชโยธิน เข้าเป็นสินทรัพย์จากปีก่อนที่ได้นำเมเจอร์ รัชโยธิน มูลค่า 1 พันล้านบาท เข้าเป็นสินทรัพย์แล้ว
อย่างไรก็ตาม เวลาที่เสนอขายกองทุนยังไม่ได้กำหนดชัดเจน เนื่องจากต้องรอสภาวะตลาด และภาวะการลงทุนที่เหมาะสมอีกครั้ง ตอนนี้บริษัทกำลังศึกษาแผนขยายขนาดกองทุนในปีหน้า คาดว่าจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
สำหรับในปี 53 คาดว่ารายได้รวมจะเติบโต 10-12% ตามอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เนื่องจากปี 53 คาดว่าภาพยนตร์ไทยจะกลับมาคึกคัก เพราะจะมีภาพยนตร์เรื่อง นเรศวร ภาค 3 และภาค 4, องค์บาก รวมถึงหนังฮอลลีวู้ด เช่น Harry Porter, Iron Man
อย่างไรก็ตาม กังวลว่าฟุตบอลโลกอาจจะสร้างผลกระทบต่อธุรกิจภาพยนตร์ แต่ส่วนตัวมมองว่าฟุตบอลโลกเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ และค่ายหนังมีแผนสร้างภาพยนตร์ต่อเนื่อง หรือไม่ก็รอให้จบฟุตบอลโลกจึงจะลงโปรแกรมฉายภาพยนตร์
นายวิชา กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนปี 53 ไว้ประมาณ 800 -1,000 ล้านบาท ปรับปรุงสาขา-ขยายโรงหนัง โดยเฉพาะที่เป็นStand Alone ในต่างจังหวัด
ส่วนเรื่องหุ้นที่เหลือถือในบมจ.แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ (CAWOW) จำนวน 19% ยังไม่มีแผนขายออก พร้อมกับเล็งถือหุ้นธุรกิจโรงหนังในอินเดียเพิ่ม จากที่ถืออยู่ 15% เนื่องจากถือเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนในต่างประเทศ แต่คงขึ้นกับโอกาสและจังหวะด้วย
ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2552 ได้มีมติอนุมัติการลงทุนในหุ้นของ PVR Limited (PVR) มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้นไม่เกิน 450 ล้านบาท และคิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 15 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ PVR
สำหรับผลการดำเนินงานปี 52 ยอมรับว่ากำไรสุทธิคงจะน้อยกว่าปี 51 เนื่องจากมีการตั้งสำรอง ประกอบกับปีนี้ไม่มีกำไรพิเศษจากการขายพร๊อพเพอร์ตี้ ฟันด์ และขายหุ้นเหมือนปี 51
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของ EBITDA คาดว่าใกล้เคียงปีก่อน ที่ 1.7 - 1.8 พันล้านบาท ขณะที่รายได้จะโตเกือบ 10% จาก 51 ที่มีรายได้เกือบ 7 พันล้านบาท
"ครึ่งปีแรกยอมรับว่าเป็นช่วงวิกฤต ซึ่งเราก็สามารถฝ่าวิกฤตมาได้ด้วยดี ไตรมาส 3 ผลประกอบการออกมาดี ไตรมาส 4 น่าจะดีมาก เชื่อว่าจะดีกกว่างวดเดียวกันของปีก่อนกว่า 40% เฉพาะ ต.ค.-พ.ย.รายได้สูงเกือบ 60% แล้ว"นายวิชา กล่าว
สำหรับไตรมาส 4 ที่รายได้ดีเนื่องจากภาพยนตร์ได้รับความนิยมสูง เพราะมีภาพยนตร์หลายเรื่องทำรายได้ทะลุ 100 เช่น รถไฟฟ้า, 2012, Transformer 2, Twilight New Moon และที่กำลังจะเข้าฉายวันที่ 17 ธ.ค.คือ AVATAR คาดว่าจะทำรายได้ประมาณ 200 ล้านบาท