บทวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ระบุว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวในงานสัมมนาของบริษัทว่าการแปลงสัญญาสัมปทานเดิมมาเป็นสัญญาเช่าเป็นหนึ่งในทางเลือกแปรสัญญาสัมปทานโทรคมนาคม ซึ่ง บล.กิมเอ็งประเมินว่าแนวทางนี้จะสามารถรักษาระดับมูลค่าปัจจุบันสุทธิ(NPV)รายได้ของบมจ.ทีโอทีและบมจ. กสท โทรคมนาคม ไว้ได้ แม้จะลดค่าธรรมเนียมแต่ขยายอายุสัญญาไปยาว
ในขณะเดียวกันการปรับให้ค่าธรรมเนียมสัญญาเดิมและใบอนุญาตใหม่มาสู่ระดับเดียวกันก็จะลดความจูงใจให้ผู้ประกอบการเอกชนโอนย้ายลูกค้าไปด้วย เนื่องจากสัญญาเช่าจะให้ระยะเวลายาวนานขึ้นมาก เช่น 15-20 ปี เปรียบเทียบกับกำหนดสิ้นสุดสัมปทานของทรูมูฟในปี 2556, ของ ADVANC ในปี 2558 และของ DTAC ในปี 2561, สัญญาเช่าจะคิดค่าธรรมเนียมต่ำกว่าสัญญาสัมปทานเดิม (เช่น ลดจาก 20-30% เป็น 15%)
ประกอบกับ ค่าธรรมเนียมโดยรวมของใบอนุญาตใหม่ 3จี จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับสัญญาเช่า (ซึ่งแปลงจากสัญญาสัมปทาน) เราเชื่อว่ากระทรวงการคลังจะเรียกเก็บภาษีสรรพสามิตอีกครั้งเพื่อปรับระดับค่าธรรมเนียมให้ใกล้เคียงกัน
หากกระทรวงการคลังเลือกแนวทางนี้จริง ยังคงประเมินว่าหุ้น ADVANC มีความปลอดภัยที่สุดเนื่องจาก ได้รับผลกระทบลบน้อยกว่าคู่แข่งหากใบอนุญาตใหม่ 3จี ล่าช้าออกไป เนื่องจาก DTAC และทรูมูฟจะต้องรับภาระจ่ายส่วนแบ่งรายได้เพิ่มขึ้น 5%ในอีก 2 ปีข้างหน้าในขณะที่ส่วนแบ่งรายได้ของ ADVANC ไม่เพิ่มแล้ว
อีกทั้ง ADVANC จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ 6.30 บาท/หุ้น/ปี หรืออัตราเงินปันผลตอบแทนถึง 7.46% ณ ราคาปัจจุบัน นอกจากนี้ราคาหุ้น DTAC ได้ปรับตัวลดลงแล้ว 16% หลังการปรับลดคำแนะนำของเราเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนมาในปัจจุบันอยู่ที่ระดับต่ำกว่าราคาเหมาะสมในกรณีที่ไม่รวม 3จี 12% อีกทั้งถือว่าเป็นบริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงินดี เราจึงปรับเพิ่มคำแนะนำจาก ถือ เป็น ทยอยสะสม
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงการคลังคาดว่าสรุปแนวทางการแปลงสัมปทานได้ภายในต้นปีหน้า