ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะเริ่มถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีหน้า รวมถึงโครงการเข้าซื้อตราสารหนี้และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกันของหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าการถอนมาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 10.88 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 10,441.12 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.25 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 1,109.18 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 5.86 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 2,206.91 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.16 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.11 พันล้านหุ้น
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซาลง หลังจากคณะกรรมการเฟดจะค่อยๆชะลอการเข้าซื้อหลักทรัพย์และตราสารหนี้ ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกันของหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล วงเงินรวม 1.25 ล้านล้านดอลลาร์ และคาดว่าธุรกรรมดังกล่าวจะสิ้นสุดลงภายในไตรมาสแรกของปี 2553 พร้อมระบุว่าจะมีการประเมินช่วงเวลาและปริมาณการเข้าซื้อหลักทรัพย์ เพราะเห็นว่าเศรษฐกิจและสภาวะในตลาดการเงินเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว
นอกจากนี้ คณะกรรมการเฟดจะเริ่มปิดวงเงินสว็อปสภาพคล่องภายในวันที่ 1 ก.พ.และค่อยๆลดวงเงินในโครงการ Term Auction Facility ในช่วงต้นปี 2552
นักวิเคราะห์มองว่าปัจจัยที่ทำให้ดาวโจนส์ปิดลบมาจากความวิตกกังวลที่ว่า แผนการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟดอาจทำให้เศรษฐกิจในปีหน้าฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปิดลบไม่มากนัก ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq สามารถปิดในแดนบวกได้ หลังจากเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25% พร้อมกับย้ำว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป และระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคลายความวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 0.4% ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
นักลงทุนจับตาดูรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เตรียมเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนพ.ย. ส่วนวันศุกร์ ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ