(เพิ่มเติม) MK เล็งผุดโครงการคอนโดฯ แห่งแรกปี 53 มูลค่า 200 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 18, 2009 14:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.มั่นคงเคหะการ (MK) มีแผนจะเปิดโครงการคอนโดมิเนียมในปี 53 ถือเป็นการพัฒนาโครงการคอนโดฯ ครั้งแรกซึ่งเลื่อนออกมาจากแผนเดิมในปี 52 เนื่องจากมองว่าขณะนี้ความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดฯ ยังมีอยู่สูง ประกอบกับ จากการสำรวจพบว่าหากมีทำเลที่ดีสามารถขายได้แน่นอน ซึ่งจะสอดคล้องกับการเปิดโครงการคอนโดฯ ของบริษัท ซึ่งจะอยู่ในแนวรถไฟฟ้าโซนเหนือ

ทั้งนี้ คาดว่าจะเปิดตัวโครงการคอนโดฯ ในช่วงไตรมาส 4/53 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาเรื่องที่ดิน จะสรุปได้ในช่วงปลายไตรมาส 1/53 โดยโครงการคอนโดฯ ดังกล่าวเป็น Low Rise 8 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 200 ล้านบาท

การเปิดโครงการคอนโดฯ เป็น 1 โครงการใหม่ที่บริษัทจะเปิดในปี 53 ที่กำหนดไว้รวม 5 โครงการ มูลค่า 2.5-3 พันล้านบาท

นางธัญญา สิริชูปกะ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด MK กล่าวว่า การเปิดโครงการใหม่ในปี 53 จะเป็นการทยอยเปิดโดยจะเห็นในไตรมาส 1/53 จำนวน 2 โครงการชวนชื่น โมดัส เซ็นโทร แจ้งวัฒนะ 41 มูลค่า 298 ล้านบาท โครงการชวนชื่น ไอส์แลนด์ ปทุมธานี มูลค่า 360 ล้านบาท และในช่วงที่เหลือเป็นการขยายเฟสต่อเนื่อง มีโครงการที่รามอินทรา กม.8 บางนา กม.29.5 มูลค่าประมาณ 900-1,000 ล้านบาท และในไตรมาส 4/53 จะเปิดโครงการคอนโดฯ ปัจจุบันมีที่ดินสำหรับปี 53 แล้ว 80-90%

ในปี 53 สัดส่วนจะมาจากบ้านเดี่ยว 80% และทาวน์โฮม เพิ่มเป็น 10% จากปี 52 ที่มีสัดส่วนบ้านเดี่ยว 85% ทาวน์โฮม 5% ส่วนบ้านแฝดทรงตัวที่ 10% ส่วนคอนโดฯ คงจะไปมีนัยในปี 54

การเปิดโครงการในปีหน้า ถือว่ามากกว่าปี 52 ที่บริษัทเปิดเพียง 2 โครงการและเป็นการเปิดในช่วงปลายปี คือ โครงการ ชวนชื่น โมดัส จรัญ-ปิ่นเกล้า มูลค่าโครงการ 640 ล้านบาท และโครงการชวนชื่น เพชรเกษม 81 มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ทั้ง 2 โครงการถือว่าได้รับการตอบรับ เพราะจากการเปิดขายเฟสแรกจำนวน 117 แปลง ขายได้แล้ว 56 แปลง

"จากการเปิดโครงการใหม่ในปี 53 ที่มากกว่าปีนี้และจำนวน Backlog ที่จะไปรับในปีหน้า 40% จาก Backlog ทั้งก้อนที่มีอย่ ณ ไตรมาส 3 จำนวน 1 พันล้านบาท จึงน่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ยอดขายในปี 53 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3 พันล้านบาท จากปี 52 ที่คาดว่ายอดขายจะอยู่ที่ 2.2-2.3 พันล้านบาท ขณะที่ GP และ net profit margin ในปี 53 เชื่อว่าจะสามารถรักษาระดับให้ใกล้เคียงกับปี 52 ที่มีอยู่ 40% และ 20% ตามลำดับ" นางธัญญา กล่าว

สัดส่วนบ้านพร้อมขายในปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 60% จากปี 52 ที่อยู่ที่ 50% ขณะที่บ้านสั่งสร้างจะอยู่ที่ 40% จากปีนี้ 50% จากการที่บ้านพร้อมขายมีความต้องการมากขึ้น

"สำหรับปีหน้ามองว่าไม่น่าจะมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องทำให้วัสดุปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากมองว่าราคาน้ำมันคงอยู่ในระดับทรงตัวที่ 70-80 เหรียญสรอ./บาร์เรล แต่อาจจะมีปัจจัยกดดันในเรื่องการเมืองบ้างที่จะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค"นางธัญญา กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ