โบรกฯ แนะ"ซื้อ"BCP ปันผลเด่นในกลุ่ม/สภาพคล่องดีขึ้นหลังเข้าดัชนี SET50

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 21, 2009 15:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ/ซื้อเก็งกำไร"หุ้น บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP)เป็นปีที่ดีสำหรับผลประกอบการในปีนี้ เนื่องจากมีกำไรจาก Hedging และมองปันผลสูงสุดในกลุ่ม คาดว่าในครึ่งปีหลังน่าจะยังจ่ายได้อีกประมาณ 0.50-1.00 บาท/หุ้น แม้มองว่าปี 53 รายได้-กำไรอาจจะลดลงเนื่องจากไม่มีการทำ Hedging แต่จากการได้เข้าคำนวณ SET50Index ที่แม้ไม่เกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานของตัวบริษัท แต่สภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นมีโอกาสเพิ่มขึ้น ขณะที่ Valuations ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ถูก และปีหน้าจะยกระดับการกลั่นมาเป็นแบบ Complex เทียบเท่า TOP และ PTTAR เพื่อรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น

          โบรกฯ                 คำแนะนำ                ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.เอเซีย พลัส           ซื้อ                     20
          บล.ธนชาต               ซื้อ                     16
          บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย)   ซื้อเก็งกำไร              18
          บล.ไอร่า                ซื้อเก็งกำไร              19
          บล.ทรีนิตี้                ซื้อ                     18.20

น.ส.นลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส แนะ"ซื้อ"หุ้น BCP โดยมองว่าดีในระยะยาว หลังจากเข้าคำนวณใน SET50Index หุ้นก็มีการดีดตัวขึ้นมา และหากมองในแง่ปัจจัยพื้นฐานกำไรในไตรมาส 4/52 น่าจะโดดเด่นสุดในกลุ่มโรงกลั่น เพราะมีส่วนที่ทำ hedging ที่จะบันทึกเป็นกำไรในไตรมาส 4//52 อีก ส่วนค่ากลั่นอาจจะอ่อนตัวไปบ้าง แต่ก็ได้กำไรจากการทำประกันความเสี่ยง(hedging)ราคาน้ำมัน มาช่วยทำให้กำไรอาจจะยังดูดีอยู่

ส่วนของ dividend Yield ค่อนข้าง dividend สูงสุดในกลุ่ม ซึ่งจ่ายมาแล้ว 1 บาทครึ่งปีแรก ครึ่งปีหลังคาดว่าน่าจะจ่ายได้อีกประมาณ 1 บาท เพราะกำไร hedging ยังมีอยู่น่าจะเอามาจ่ายได้

ปีหน้าโรงกลั่นก็จะปรับเปลี่ยนจาก Hydroskimming มาเป็น Complex เทียบได้เหมือน TOP และ PTTAR เป็นการยกระดับฐานค่าการกลั่นขึ้นมาให้ระดับเดียวกับ Complex อื่นๆ สามารถรองรับสถานการณ์ว่าดีมานด์น่าจะเริ่มทยอยฟื้นตัวได้ปีหน้า ประกอบกับ น้ำมันในกลุ่มเบนซินและดีเซลก็น่าจะกลับมามีดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายตลาด บล.ธนชาต มองว่า แม้ราคาหุ้น BCP จะปรับขึ้นมาแรงในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา แต่ Valuations ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ถูก มองปีหน้ายังเทรดอยู่ที่ประมาณ 0.6 เท่าของ BV และมี yield ประมาณ 7% โดยเชื่อว่าปีหน้าจะจ่ายปันผลของงวดปี 52 ได้อีก 1 บาท/หุ้น จากครึ่งปีแรกจ่ายไปแล้ว 1 บาท

ส่วนปีหน้ากำไรคงไม่ได้มากเหมือนกับปีปัจจุบัน จึงคาดว่าปันผลคงจะลดลงมา 1 บาท แม้ว่าค่าการกลั่นปีหน้าคงจะดีขึ้นเล็กน้อยจากปีปัจจุบัน แต่ปีปัจจุบันมีกำไรจากการทำ hedging ไว้ค่อนข้างสูง ซึ่งคิดว่าปีหน้าคงจะไม่มีมากเหมือนขนาดนี้

ขณะที่ไตรมาส 4/52 กำไรยังออกมาดี มีกำไรจาก hedging แต่คงจะชะลอตัวลงจากช่วงไตรมาส 3/52 ให้ราคาเป้าหมาย 16 บาท

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายหลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)คาดว่า ปีนี้มีกำไรพิเศษจากการทำ Hedging ราคาน้ำมันทำให้ปีนี้กำไรค่อนข้างจะดี แต่ปีหน้ากำไรในส่วนนี้จะลดลงไป แต่ประเด็นที่แนะให้"เก็งกำไร"คือ การที่หุ้น BCP ได้ถูกนำเข้าคำนวณดัชนี SET50Index ซึ่งประกาศไปแล้ว ประเด็นที่ 2 เรื่องเงินปันผลในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในระหว่าง 0.50-1.00 บาท/หุ้น แต่ถ้าถือระยะยาวคิดว่ากำไรและราคาปีหน้ามีโอกาสชะลอตัวลงได้

นายอธิภู วิศวเวช นักวิเคราะห์ บล.ไอร่า แนะ"ซื้อเก็งกำไร" แม้การเข้า SET50 ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานโดยตรง แต่แนวโน้มสภาพคล่องในการซื้อขายหลักทรัพย์ของ BCP มีโอกาสเพิ่มขึ้น

ขณะที่ในแง่ของการดำเนินการบริษัทสามารถตัดสินใจได้ค่อนข้างยืดหยุ่นกว่าโรงกลั่นที่มีปิโตรเคมีในการทำ Hedging ไตรมาส 3/52 มีกำไร 2.1 พันล้านบาท ลดลง 22%qoq แต่ยังดีขึ้น yoy เนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขาดทุน 252 ล้านบาท ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะลดลง 33%

ค่าการกลั่นพื้นฐานในไตรมาส 3/52 อยู่ในระดับที่ต่ำ แต่ยังได้รับผลดีจาก Hedging ที่ทำไว้ และในปีนี้ค่าการกลั่นทั้งปีจะยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับ โครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันจะเริ่มเดินหน้าในไตรมาส 4/52 ส่วนปี 53 คาดกำไรจาก hedging และกำไรสต็อกน้ำมันในปีหน้าจะลดลงกว่าในปีนี้

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบจากมาบตาพุด และคาดปันผลอีก 1 บาทในงวดครึ่งปีหลังจากครึ่งปีแรกที่จ่ายไปแล้ว 1 บาท คิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 6.6%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ