โบรกเกอร์ ส่วนใหญ่แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์(QH)คาดปี 53 กำไรเติบโตโดดเด่นที่สุดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จากการโอนโครงการคอนโดมิเนียมที่สาทร ประมาณ 1.8 พันล้านบาท และ โครงการคอนโดมิเนียมที่ หลังสวน โดยกำไรในไตรมาส 1/53 จะเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และทั้งปีคาดว่ากำไรจะเติบในระดับ 35-26% เป็นการเติบโตต่อเนื่องจากปี 52
ขณะเดียวกันบริษัทก็ได้ประโยชน์จากการที่ LH BANK จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในต้นปี 53 จึงทำให้มีแรงเก็งกำไรในวันนี้พอสมควร
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.กิมเอ็ง ซื้อ 3.22 บล.กรุงศรีอยุธยา ซื้อ 3.00 บล.โกลเบล็ก ซื้อ 3.00 บล.บัวหลวง ซื้อ 2.95 บล.เอเซียพลัส เก็งกำไร 2.68 บล.นครหลวงไทย ซื้อสะสม 3.70
นายสุรศักดิ์ อนุตรโสตถิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)หรือ KEST มองว่าในปีหน้า QH จะเป็นหุ้นที่มีการเติบโตสูงสุดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยประเมินว่ากำไรจะเติบโต 26% (บนสมมติฐานที่ยังไม่มีการต่ออายุมาตรการภาษีกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์) หรือมีกำไร 2,185 ล้านบาท จากปี 52 ที่คาดว่าจะมีกำไร 1,731 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 12%
การเติบโตในปีหน้าของ QH หลักๆมาจากการได้รับโอนคอนโดมิเนียมสาทร และคอนโดมินียมหลังสวน โดยโครงการที่สาทร จะมีการโอน 70% ของมูลค่าโครงการ 2.3 พันล้านบาท ส่วนโครงการหลังสวนจะมีการโอน 25% ของมูลค่าโครงการ 3.5 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะโอนเข้ามาในไตรมาส 1/53
"ตัวนี้เด่นเรื่อง Earning Growth ยิ่งถ้ามาตรการภาษีต่ออายุอีกก็จะทำให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอีก 10-15%...เราแนะนำซื้อ และถือยาวได้ 6 เดือนถึง 1 ปี"นายสุรศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ คาดว่าในปี 53 จะมีการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท/หุ้น สูงกว่าปีนี้ที่คาดว่าจะจ่ายในอัตรา 0.08 บาท/หุ้น
ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ในปีหน้าโครงการคอนโดมิเนียมสาทรของ QH ที่มียอดขายแล้ว 1.9 พันล้านบาทจะเริ่มโอนเข้ามาในไตรมาส 1/53 จำนวน 1.8 พันล้านบาท ถือว่าในไตรมาส 1/53 จะทำกำไรสูงสุด ซึ่งเป็นสถิติใหม่ และประเมินว่าทั้งปี 53 กำไรจะเติบโต 35% จากปี 52 โดยคิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.27 บาท สูงกว่าปี 52 ที่คาดว่าจะมีกำไรต่อหุ้น 0.20 บาท
นอกจากนี้ ก็ยังมีเรื่องธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์เพื่อรายย่อย(LH Bank)ที่จะนำเข้าจดทะเบียนในช่วงต้นปี 53 ซึ่ง QH ถือหุ้นอยู่ 27% ก็จะได้รับประโยชน์ ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)นับหนึ่งไฟลิ่งเมื่อวันที่ 15 ก.ค.52
"คงเป็น 2 เรื่องนี้ที่ขับเคลื่อนราคาหุ้น ...ราคาอาจเคลื่อนไหวปรับมากไปกว่าที่เราคาดการณ์บ้างเล็กน้อย ผมว่าก็เข้าเก็งกำไรได้"นายเทิดศักดิ์ กล่าว
บทวิเคราะห์ของบล.บัวหลวง ระบุว่า การที่หุ้น QH กลับเข้ามาใน SET50 สำหรับเดือน ม.ค.-มิ.ย.53 จะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น ขณะที่ในแง่ปัจจัยพื้นฐานโครงการคอนโดฯสาทร เป็นโครงการหลักที่จะทำให้ QH มีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์และหนี้สินต่อทุนต่ำสุดในไตรมาส 1/53
ทั้งนี้ เราคาด QH จะมีการเติบโตของกำไรในปี 53 เป็นลำดับที่สองเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการในกลุ่ม โดยมีมุมมองว่า QH จะทำกำไรสถิติสูงสุดใหม่ในไตรมาส 1/53 ได้รับแรงผลักดันจากการโอน Q.House สาทร ซึ่งคาดว่ากำไรสุทธิอย่างต่ำในไตรมาส 1/53 จะอยู่ที่ 700-750 ล้านบาท(โดย 30-40% ของกำไรมาจากคอนโด)
ไม่เพียงแต่กำไรสูงทำสถิติใหม่เท่านั้น เราคาดว่างบดุลสิ้นเดือน มี.ค.53 จะแข็งแกร่งที่สุดนับแต่อดีต แม้ว่า QH จะต้องใส่เงินเพิ่มทุนให้ LH Bank ในไตรมาส 1/53 ประมาณ 300 ล้านบาท (เนื่องจาก QH ถือหุ้นอยู่ 27%) เราคาดว่าอัตราหนี้สินต่อทุนสุทธิจะลดลงมาอยู่ที่เพียง 0.9 เท่า ณ สิ้นเดือน มี.ค.53(จาก 1 เท่า ณ สิ้น ก.ย.52)
นอกจากนี้ QH วางแผนเปิดตัว 2 คอนโดฯใหม่ ท่าพระและสุขุมวิท 97(ส่วนต่อขยาย BTS)บริษัทได้ทำการซื้อที่ดินแล้ว ทั้งนี้ลักษณะการเปิดคือจะเสร็จงานฐานรากและเสาเข็มก่อนเปิดตัวเพื่อจำกัดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากราคาวัตถุดิบผันผวน ทั้งนี้ยอดจองคอนโด 2 โครงการดังกล่าวจะเป็นยอดขายรอรับรู้รายได้สำหรับปี 54