ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 50.79 จุด หลังยอดขายบ้านสหรัฐพุ่งเกินคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 23, 2009 06:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านที่เพิ่มขึ้นเกินคาด นับเป็นหลักฐานล่าสุดที่บ่งชี้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฟื้นตัวในอัตราที่รวดเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปิดบวกในกรอบที่จำกัด หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศปรับลดการประเมินตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดขึ้น 50.79 จุด หรือ 0.49% ปิดที่ 10,464.93 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.97 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 1,118.02 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 15.01 จุด หรือ 0.67% ปิดที่ 2,252.67 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 955.5 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วนเกือบ 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.75 พันล้านหุ้น

นักวิเคราะห์จากซีบีไอแซท เวลธ์ เมเนจเมนท์ กรุ๊ป ในนิวยอร์ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับรายงานของสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐที่ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 7.4% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.5% เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐประกาศใช้มาตรการลดหย่อนภาษี ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายบ้านทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี

ยอดขายบ้านมือสองที่เพิ่มขึ้นเกินคาดเป็นหลักฐานล่าสุดที่บ่งชี้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวล และถือเป็นปัจจัยบวกที่ตลาดได้รับสืบเนื่องจากวันจันทร์ เมื่อบริษัท ซาโนฟี-เอเวนติส ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยาของฝรั่งเศสประกาศแผนเข้าซื้อกิจการบริษัท แชทเทม อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพของสหรัฐ มูลค่า 1.9 พันล้านดอลลาร์

ขณะที่บริษัท บูซีรัส อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องจักรในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ วางแผนเข้าซื้อกิจการบริษัท เทเร็กซ์ คอร์ป ซึ่งเป็นธุรกิจประเภทเดียวกัน มูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ และบริษัท สปายเคอร์ คาร์ส ยอมรับข้อเสนอใหม่ที่จะซื้อกิจการซาบจากเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม)

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในกรอบที่จำกัดหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศปรับลดการประเมินตัวเลขจีดีพี โดยประเมินว่าจีดีพีไตรมาส 3 ขยยตัวเพียง 2.2% ต่ำกว่าที่มีการประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2.8%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยรายได้และการบริโภคส่วนบุคคลเดือนพ.ย., มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายเดือนธ.ค.และกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย.

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าวอลุ่มการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเบาบางไปจนถึงช่วงเทศกาลวันหยุด โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเปิดทำการเพียงครึ่งวันในวันพฤหัสบดีที่ 24 ธ.ค. และปิดทำการในวันศุกร์ที่ 25 ธ.ค.เนื่องในวันคริสต์มาส


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ