นายณัฐพล ชวลิตชีวิน กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) คาดว่า การออกหุ้นกู้ของเอกชนในปี 53 จะมีปริมาณการออกที่ลดลงมากพอสมควร โดยมีปัจจัยที่เรื่องของทิศทางดอกเบี้ย ที่คาดว่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในปีหน้า และจากการออกพันธบัตรพัฐบาลจำนวนมากของภาครัฐ จะมากระทบในแง่ของดีมานด์
"ในปีหน้าประเมินสถานการณ์ว่า บริษัทต่างๆ จะมีการออกหุ้นกู้เอกชนประมาณ 2.2-2.5 แสนล้านบาทเท่านั้นจากสิ้นปี 52 ที่มีปริมาณการออกเกือบ 4 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากบริษัทเอกชนรู้ว่าถ้าออกในปี 53 ต้องชนกับการออกพันธบัตรของรัฐบาล" นายณัฐพล กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจเบื้องต้น พบว่า การซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดรองน่าจะมีการซื้อขายที่คึกคักขึ้นกว่าปี 52 ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณพันธบัตรรัฐบาลที่มีออกมาใหม่เป็นจำนวนมาก แต่นักลงทุนยังคงเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลางเท่านั้น เนื่องจากทิศทางเศรษฐกิจยังไม่แน่นอน ทำให้นักลงทุนไม่กล้าลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวมากนัก
สำหรับปี 52 พันธบัตรรัฐบาลที่ออกใหม่ในปี 2552 เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปี 2551 ในขณะที่หุ้นกู้ภาคเอชน ทำสถิติใหม่ด้วยมูลค่าหุ้นกู้ออกใหม่ในปีนี้เกือบ 400,000 ล้านบาท
ขณะที่การซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดรองไม่น้อยหน้าเช่นกัน นักลงทุนหันมาซื้อขายตราสารหนี้อย่างคึกคัก โดยมูลค่าการซื้อขายตราสารหนี้หากตัดมูลค่าการซื้อขายในพันธบัตร ธปท. ออก พบว่า มูลค่าการซื้อขายในตลาดรองมีมูลค่าสูงขึ้นจากปี 2551 กว่าร้อยละ 60 ทั้งนี้ นักลงทุนหันมาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้ภาคเอกชนเพิ่มขึ้น หลังจากคลายความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจลง และเริ่มแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น
กรรมการผู้จัดการ ThaiBMA กล่ายอมรับว่า กรณีคำสั่งของศาลปกครองให้ระงับ 65 โครงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดชั่วคราว อาจส่งผลกระทบต่อการออกหุ้นกู้ของเอกชนบ้าง หากเป็นรายที่ถูกระงับโครงการ ที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องระดมเงินในช่วงนี้ เพราะโครงการยังไม่สามารถจะลงทุนหรือดำเนินการใดๆ ได้ คงต้องรอให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้เสร็จสิ้น ชัดเจนก่อน จึงจะทราบว่าโครงการใดบ้างที่มีความจำเป็นต้องระดมเงินผ่านตลาดตราสารหนี้
"เรื่องมาบตาพุดถ้ากระทบคงนิดหน่อย ตรงที่ตอนนี้บริษัทที่ลงทุนยังไม่รู้ว่าจะระดมทุนไปทำอะไร เพราะทุกอย่างยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน" นายณัฐพล กล่าว