THAI ยันเดินหน้ายกเที่ยวบินในปท.ให้นกแอร์เพิ่ม/เสนอแผนเพิ่มทุนก่อนสิ้นปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 23, 2009 17:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย(THAI) กล่าวว่า บริษัทยืนยันที่จะแบ่งเส้นทางบินในประเทศบางส่วนให้ทางสายการบินนกแอร์ให้บริการแทน ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ของบริษัท แม้ว่าจะมีการคัดค้านจากหลายคนในรัฐบาลและฝ่ายการเมือง เพราะบริษัทเชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวธุรกิจของบริษัทเองและประชาชนผู้ใช้บริการ

เบื้องต้นบริษัทจะให้นกแอร์ทำการบินในประเทศ 3 เส้นทางก่อน ซึ่งจะช่วยลดภาระการขาดทุนใน 3 เส้นทางนี้ที่ขาดทุนรวมกันประมาณ 211.1 ล้านบาท และมีแผนจะนำเส้นทางบินในประเทศเส้นทางอื่น ๆ โอนให้นกแอร์เป็นผู้ให้บริการเพิ่มเติมอีก ยกเว้นจุดบินหลักที่เชื่อมโยงกับเส้นทางบินระหว่างประเทศ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต หาดใหญ่ ซึ่งการบินไทยจะยังคงดำเนินการเอง

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในสายการบินนกแอร์เป็น 49% จากที่ถืออยู่ 39% โดยจะซื้อหุ้นอีก 10% จากธนาคารกรุงไทย(KTB) คาดว่าจะใช้เงินไม่มากนัก และแนวทางการจัดหาเงินทุนมีหลายแนวทาง โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินกู้ เช่น อาจจะนำค่าเช่าเครื่องบินที่นกแอร์ชำระให้กับการบินไทยปีละประมาณ 600 ล้านบาทมาใช้ซื้อหุ้น ซึ่งคาดว่า KTB จะไม่มีปัญหาที่จะขายหุ้นนกแอร์ให้กับ THAI

สำหรับความกังวลของรัฐมนตรีและสมาชิสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)บางคนที่เกรงว่าจะได้รับการบริการไม่ดีเท่าเทียมกับการบินไทยนั้น นายปิยสวัสดิ์ ยืนยันว่า คุณภาพการให้การบริการของนกแอร์เทียบเท่าการบินไทย โดยเฉพาะเครื่องบินในเส้นทางบินแทนการบินไทย ได้แก่ พิษณุโลก แม่ฮ่องสอน และ อุบลราชธานี เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 737-400 ส่วนประชาชนก็จะได้ประโยชน์ เนื่องจากค่าโดยสารใน 3 เส้นทางดังกล่าวจะภูกลง

"เชื่อว่านกแอร์จะสามารถประเมินความสำเร็จได้ประมาณ 1-2 เดือน คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร และภาระขาดทุนเส้นทางบินในประเทศโดยรวมจะหมดไป ซึ่งเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการแก้ไขปัญหาการขาดทุนของบริษัท"นายปิยสวัสดิ์ กล่าว

ด้านนายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะนำสายการบินนกแอร์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 3 ปีข้างหน้า ซึ่งบริษัทจะต้องมีการเตรียมตัวบริหารงานและเพิ่มจำนวนเครื่องบิน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 6 ลำ โดยผลประกอบการของบริษัทมีกำไรสุทธิ 330 ล้านบาทในปี 51 และคาดว่าในปี 52 จะมีกำไรสุทธิโตต่อเนื่องได้ ปัจจุบันมีสถานะการเงินที่มั่นคงมีกระแสเงินสดกว่า 400 ล้านบาท

"เราเชื่อมั่นว่าสถานะการของบริษัทเริ่มดีขึ้นต่อเนื่อง เชื่อว่าจะไม่ป็นปัญหาและภาระให้กับการบินไทยซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่วนการบินไทยจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 49% นกแอร์ ก็ยินดี แต่ไม่สามารถเพิ่มได้มากกว่านี้เพราะเราไม่ต้องการเป็นรัฐวิสาหกิจ"นายพาที กล่าว

*แผนเพิ่มทุนเสร็จทันก่อนสิ้นปี 52 พร้อมแผนซื้อเครื่องบิน

สำหรับแผนเพิ่มทุนของการบินไทย นายปิยสวัสดิ์ คาดว่า บริษัทจะเสนอแผนเพิ่มทุนให้กระทรวงคมนาคมและจะส่งต่อไปยังกระทรวงการคลังได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มทุนสำเร็จตามกำหนดที่จะต้องมีเม็ดเงินใหม่เข้ามาในปี 53 ส่วนจะเพิ่มทุนจำนวนเท่าไรยังไม่มีข้อสรุป

ปัจจุบัน THAI มีจดทะเบียน 1.7 หมื่นล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ 51%

"หลังการเพิ่มทุน เรายังคงดำเนินการตามแผน เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ทันกำหนดในปี 53 เพื่อเพิ่มศักยภาพฝูงบิน ที่เราจะมีแผนเพิ่มเครื่องใหม่ 15 ลำ เพื่อสร้างอำนาจาการแข่งขันกับสายการบินอื่นๆ" นายปิยสวัสดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาแผนการจัดหาเครื่องบิน และ แผนการเพิ่มทุนให้สอดคล้อง

สำหรับในไตรมาส 4/52 คาดว่าบริษัทจะพลิกมีกำไร เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น แม้ว่าไตรมาส 3/52 จะขาดทุนถึง 4 พันล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ