ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปิดบวกเพียงเล็กน้อยเพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงเหนือความคาดหมาย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับขึ้น 1.51 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 10,466.44 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 2.57 จุด หรือ 0.23% ปิดที่ 1,120.59 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 16.97 จุด หรือ 0.75% ปิดที่ 2,269.64 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 785.9 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 5 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.59 พันล้านหุ้น
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นด้วย โดยราคาทองคำ น้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆพร้อมใจกันทะยานขึ้นถ้วนหน้า หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง โดยเมื่อวานนี้ดัชนี ICE Futures U.S. dollar index ดิ่งลง 0.5%
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในกรอบที่จำกัดและภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.ดิ่งลง 11.3% แตะที่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
ข้อมูลยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.ที่ร่วงลงเหนือความคาดหมายทำให้นักลงทุนกลับมาวิตกกังวลเรื่องทิศทางของภาคอสังหาริมทรัพย์สหรัฐ หลังจากเมื่อวันอังคารนักลงทุนเพิ่งขานรับรายงานของสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐที่ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.ในสหรัฐพุ่งขึ้น 7.4% แตะระดับ 6.54 ล้านยูนิต มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.5%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังต่อดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐเดือนธ.ค. และข้อมูลการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ย.ที่ออกมาอ่อนแอเกินคาด
นักลงทุนจับตาดูรายงานยอดค้าปลีกในช่วงเทศกาลคริสต์มาสในสหรัฐอย่างใกล้ๆชิด หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ร่วมกับ International Council of Shopping Centers (ICSC) รายงานว่า ยอดค้าปลีกในสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 19 ธ.ค เพิ่มขึ้นเพียง 0.4% ซึ่งเป็นสถิติเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 15 สัปดาห์ เนื่องจากหิมะที่ตกหนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ส่งผลให้ร้านค้าจำนวนมากในสหรัฐต้องปิดทำการ และยังเป็นสาเหตุให้ผู้บริโภคหลีกเลี่ยงการเดินทางออกจากบ้านแม้ในขณะนี้เป็นเทศกาลจับจ่ายใช้สอยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบปีก็ตาม
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเปิดทำการเพียงครึ่งวันในวันพฤหัสบดีที่ 24 ธ.ค. และปิดทำการในวันศุกร์ที่ 25 ธ.ค.เนื่องในวันคริสต์มาส