GSTEEL จะแจ้งความคืบหน้าการเจรจาเจ้าหนี้ครั้งต่อไป 31 มี.ค.53

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 24, 2009 08:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.จี สตีล (GSTEEL) แจ้งถึงการเจรจากับเจ้าหนี้ของบริษัทฯ และบริษัท โอเรียลทัล แอ็กเซส จำกัด (บริษัทย่อย) ว่าจะแจ้งความคืบหน้าต่อไปภายในวันที่ 31 มีนาคม 2553 ซึ่งบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีแนวทางในการชำระหนี้จำนวนนี้ด้วยการหาผู้ร่วมลงทุนใหม่และ/หรือการหาเงินกู้เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้เดิมจากสถาบันการเงิน ซึ่งบริษัทฯ และบริษัทย่อยได้ดำเนินการเจรจาอย่างต่อเนื่องกับสถาบันการเงินดังกล่าว

อนึ่ง ตามที่บริษัทย่อยผิดเงื่อนไขการจ่ายชำระเงินกู้จำนวน 15 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 535 ล้านบาท ซึ่งถึงกำหนดจ่ายชำระในวันที่ 30 เมษายน 2552 และบริษัทย่อยได้รับแจ้งจากเจ้าหนี้ในการขอสงวนสิทธิที่จะนำหลักประกันของบริษัทย่อยที่ได้จดจำนำใบหุ้นของบมจ. จี เจ สตีล (GJS) เพื่อเป็นหลักประกันเงินกู้ยืมข้างต้นออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ได้ จากเหตุดังกล่าว บริษัทย่อยได้ดำเนินการยื่นขอคุ้มครองชั่วคราวต่อศาลเพื่อห้ามการขายทอดตลาดหุ้นและเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2552 ศาลได้มีคำสั่งห้ามชั่วคราวมิให้เจ้าหนี้ดังกล่าวขายทอดตลาดหุ้นจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

สำหรับหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกัน จำนวน 170 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะครบกำหนดชำระคืนเงินต้นในวันที่ 4 ตุลาคม 2553 ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทางด้านการเงินเพื่อดำเนินการปรับโครงสร้างการเงิน และปรับโครงสร้างของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกัน

ด้านนายชนาธิป ไตรวุฒิ กรรมการบริษัท บมจ. จี เจ สตีล (GJS) แจ้งความคืบหน้าในการติดตามหนี้จากลูกหนี้และการเจรจา หนี้ของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท โดยการรับชำระหนี้จากกิจการที่เกี่ยวข้องชุดเดิมรวม 675 ล้านบาท ในส่วนของเงินให้กู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยค้างรับจำนวน 604.95 ล้านบาท ที่เกิดขึ้นก่อนปี 41 บริษัทกำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานเพื่อติดตามขอรับชำระหนี้ในส่วนนี้ ซึ่งหากบริษัทสามารถสรุปหาแนวทางในการติดตามขอรับชำระหนี้จำนวนนี้แล้ว จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ส่วนของเงินทดลองจ่ายที่เกี่ยวข้องกับ บมจ. เอ็น.ที.เอส. สตีลกรุ๊ป จำนวน 13.97 ล้านบาท บริษัทได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการของ บมจ. เอ็น.ที.เอส. สตีลกรุ๊ป ซึ่งบริษัทจะได้รับชำระหนี้ในอัตรา 100 % ของต้นเงินโดยไม่มี ดอกเบี้ย ซึ่งเท่ากับจำนวน 12.21 ล้านบาท โดยปัจจุบันยังไม่ถึงกำหนดชำระ

ขณะที่เงินมัดจำที่เกี่ยวข้องกับ บมจ. เอ็น.ที.เอส. สตีลกรุ๊ป มูลค่า 58.14 ล้านบาท บริษัทได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการของ บมจ. เอ็น.ที.เอส. สตีลกร๊ป ซึ่งบริษัทจะได้รับชำระหนี้ในอัตรา 100 % ของต้นเงินโดยไม่มีดอกเบี้ย ซึ่ง เท่ากับจำนวน 58.14 ล้านบาท โดยปัจจุบันยังไม่ถึงกำหนดชำระ

ส่วนของเงินทดลองจ่ายที่เกี่ยวข้องกับ บริษัท สตีลทอป จำกัด จำนวน 0.27 ล้านบาทที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 41นั้น บริษัทกำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานเพื่อติดตามขอรับชำระหนี้ในส่วนนี้ ซึ่งหากบริษัทสามารถสรุปหาแนวทางในการติดตามขอรับชำระหนี้ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

สำหรับความคืบหน้าการรับเงินคืนตามตั๋วสัญญาใช้เงินของสถาบันการเงินจำนวน 143.14 ล้านบาท ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 41 นั้น บริษัทกำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานเพื่อติดตามขอรับชำระหนี้ในส่วนนี้ ซึ่งหากบริษัทสามารถสรุปหาแนวทางในการติดตามขอรับชำระหนี้จำนวนนี้แล้ว จะแจ้งให้ทราบเช่นกัน

ความคืบหน้าการเจราจากับเจ้าหนี้ ของ บมจ. จี สตีล และบริษัท โอเรียลทัล แอ็กเซส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ. จี สตีล และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท

จากการที่ บริษัท โอเรียลทัล แอ็กเซส จำกัด ไม่สามารถจ่ายชำระเงินกู้จำนวน 15 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 535 ล้านบาท ซึ่งถึงกำหนดจ่ายชำระในวันที่ 30 เม.ย.52 ทำให้ผิดเงื่อนไขการจ่ายชำระตามที่ระบุไว้ในสัญญาเงินกู้และมีภาระต้องจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมคงเหลือทั้งหมด บริษัท โอเรียลทัล แอ็กเซส จำกัด ได้รับแจ้งจากเจ้าหนี้ในการขอสงวนสิทธิที่จะนำหลักประกันของบริษัท โอเรียลทัล แอ็กเซส จำกัด ที่ได้จดจำนำใบหุ้นของบริษัท เพื่อเป็นหลักประกันเงินกู้ยืมข้างต้นออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ได้

จากเหตุดังกล่าว บริษัท โอเรียลทัล แอ็กเซสจำกัด ได้ดำเนินการยื่นขอคุ้มครองชั่วคราวต่อศาลเพื่อห้ามการขายทอดตลาดหุ้น และเมื่อวันที่ 29 ต.ค.52 ศาลได้มีคำสั่งห้ามชั่วคราวมิให้เจ้าหนี้ดังกล่าวขายทอดตลาดหุ้นจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

อย่างไรก็ตาม บมจ. จี สตีล และบริษัท โอเรียลทัล แอ็กเซส จำกัด มีแนวทางในการชำระหนี้ จำนวนนี้ด้วยการหาผู้ร่วมลงทุนใหม่ และ/หรือการหาเงินกู้เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้เดิมจากสถาบันการเงิน ซึ่งทั้งสองบริษัท ได้ดำเนินการเจรจาอย่างต่อเนื่องกับสถาบันการเงินดังกล่าว หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ