APC ชี้แจงการปรับโครงสร้างหนี้บริษัทส่งผลเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นในปี 53

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 24, 2009 09:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปรีชา ปุณณกิติเกษม ประธานกรรมการ บมจ.แอ๊ดว้านซ์ เพ้นท์ แอนด์ เคมิเคิล (ไทยแลนด์)(APC) แจ้งว่า บริษัทขอชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้สัตยาบันของคณะกรรมการบริษัทในการลงนามในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับนายสุธี นพคุณ ซึ่งไม่ได้เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกับบริษัท

บริษัทมีเงินกู้ยืมระยะสั้นจากธนาคารทหารไทย จำนวนเงิน 50 ล้านบาท และไม่สามารถชำระดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/51 เป็นต้นมา ส่งผลให้ธนาคารมีหนังสือขอให้บริษัทชำระหนี้เงินกู้ยืมทั้งจำนวนรวมดอกเบี้ยค้างจ่ายในทันที มิเช่นนั้นจะดำเนินการฟ้องร้องบังคับจำนองหลักประกัน ซึ่งเป็นที่ดินที่ตั้งสำนักงานใหญ่และโรงงานของบริษัท แต่บริษัทไม่สามารถชำระหนี้เงินกู้ยืมและดอกเบี้ยค้างจ่ายดังกล่าวได้เนื่องจาก ประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน โดยบริษัทได้พยายามเจรจาขอผ่อนผันขยายระยะเวลาการชำระหนี้เรื่อยมา

ต่อมาวันที่ 13 พ.ค. 52 ธนาคารได้มีหนังสือโอนสิทธิเรียกร้องในเงินกู้ยืมดังกล่าวถึงบริษัทว่า ธนาคารได้โอนสิทธิเรียกร้องตามสัญญาสินเชื่อดังกล่าวให้กับนายสุธี นพคุณ ในฐานะผู้รับโอนสิทธิและแจ้งว่าการชำระเงินใดๆ ตามสัญญาสินเชื่อ ให้บริษัทชำระโดยตรงแก่ผู้รับโอนสิทธิ มีผลตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.52 เป็นต้นไป

ต่อมา นายสุธี มีหนังสือแจ้งให้บริษัทชำระหนี้สินจากการโอนสิทธิ์ดังกล่าวรวมจำนวน 51.50 ล้านบาทในทันที ดังนั้นบริษัทจึงให้ประธานกรรมการเป็นตัวแทนของบริษัทในการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับนายสุธี ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา จนกระทั่งได้ข้อสรุปเมื่อวันที่ 23 พ.ย.52 จึงได้ลงนามในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ก่อนที่คณะกรรมการบริษัทจะอนุมัติเนื่องจากเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อบริษัท

หลังจากนั้นวันที่ 4 ธ.ค.52 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้ให้สัตยาบันในการทำรายการ โดยการลดหนี้เงินกู้ยืมจากการโอนสิทธิดังกล่าวข้างต้นจาก 51.50 ล้านบาท เหลือ 40 ล้านบาท แบ่งการชำระ โดยแปลงหนี้เป็นทุนจำนวน 10 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 50 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.20 บาท และชำระเป็นเงินสดจำนวน 30 ล้านบาท ภายใน 3 เดือนนับจากวันที่ลงนามในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ซึ่งบริษัทจะนำเงินจากการขายที่ดิน อาคารและโรงงานไปชำระเงินกู้ดังกล่าว ไม่คิดดอกเบี้ยจ่ายที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. 52 ซึ่งเป็นวันที่รับโอนสิทธิ เป็นต้นไป

ทั้งนี้ บริษัทจะต้องชำระหนี้สินดังกล่าวข้างต้นให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 23 ก.พ.53 ซึ่งภายหลังจากการแปลงหนี้เป็นทุนแล้วเสร็จ นายสุธีจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยถือหุ้น 18.34% ขณะที่กลุ่มปุณณกิติเกษม จะเหลือการถือหุ้นจาก 6.17% เหลือ 5.04%

บริษัทจะเสนอชื่อ นายสุธี เข้ามาเป็นกรรมการบริษัทในการประชุมสามัญประจำปี 2553 โดยนายสุธี มีความเห็นสอดคล้องกับมติคณะกรรมการบริษัทที่ให้บริษัทยังคงประกอบธุรกิจผลิตสีต่อไป โดยอาจมีธุรกิจอื่นเข้ามาเสริมรายได้ให้กับบริษัท แต่ยังไม่มีความชัดเจนในขณะนี้ว่าเป็นธุรกิจประเภทใด

ที่ปรึกษาทางการเงินที่เป็นผู้ประเมินราคายุติธรรมของหุ้นบริษัทคือ บริษัท โกลเบล็ก แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด โดยประเมินมูลค่ายุติธรรมของหุ้นบริษัทเท่ากับ 0 บาท เนื่องจากที่ปรึกษาทางการเงินได้พิจารณาความเหมาะสมของวิธีการประเมินต่าง ๆ แล้วมีความเห็นว่า วิธีปรับปรุงมูลค่าทางบัญชี เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการประเมินมูลค่าหุ้นสามัญ ของบริษัท โดยคำนวณมูลค่าทางบัญชีหลังปรับปรุงได้เท่ากับ - 0.0834 บาทต่อหุ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ