นายสมยศ ฐิติสุริยารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) เปิดเผยว่า บริษัทฯอยู่ระหว่างวางแผนการลงทุนในปี 53-54 ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นแผนการขยายการลงทุนทางด้านลอจิสติกส์ เพื่อเป็นการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งของบริษัทฯในอนาคต โดยแผนดังกล่าวคาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 400-500 ล้านบาท
นอกจากนี้ มีแผนที่จะขยายการรับคำสั่งซื้อ(ออเดอร์)ไปยังแถบประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดออเดอร์)ให้กับบริษัทฯในปี2553 ได้อย่างมากขึ้น
ปัจจุบัน บริษัทมีคลังสินค้าอยู่ 4 แห่ง สามารถเก็บสต๊อกสินค้าได้ถึง 650,000 ตันต่อปี
"แผนการขยายการลงทุนในครั้งนี้เป็นแผนลงทุนต่อเนื่องระหว่างปี 53-54 โดยคาดว่าจะสามารถช่วยเสริมศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯในระยะยาวได้เป็นอย่างดี เนื่องจากที่ผ่านมาต้นทุนค่าขนส่งอยู่ในระดับที่ไม่น่าพอใจ เพราะต้องอิงกับราคาน้ำมัน ทำให้ช่วงที่ผ่านมาต้องแบกบรับภาระต้นทุนดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง" นายสมยศ กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 53 คาดว่าปริมาณยอดขายถ่านหินเพิ่มขึ้นอีก 20% จากปี 52 ที่คาดว่าจะมีปริมาณยอดขายถ่านหินอยู่ที่ 9.5 แสนตัน โดยเพิ่มขึ้นจากปี 51 ที่มีปริมาณยอดขายถ่านหินอยู่ที่ 8.4 แสนตัน ขณะที่ประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้ในปีหน้า คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น20% จากปี 52 ที่มีการคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2,100 ล้านบาท
ในปี 53 เชื่อว่าถ่านหินยังคงมีความต้องการสูงตามทิศทางเศรษฐกิจโลก สำหรับราคาถ่านหินในตลาดโลกแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลกด้วยเช่นกัน
ราคาถ่านหินตามดัชนี BJI ขณะนี้อยู่ที่ 80 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในขณะที่ราคาถ่านหินในประเทศอยู่ที่ 2,500 — 2,700 บาทต่อตัน อุตสาหกรรมที่ใช้ถ่านหินจำนวนมาก ได้แก่ โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าและปูนซีเมนท์ และยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มใช้ถ่านหินอย่างต่อเนื่องตามกำลังการผลิตที่เพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่อุตสาหกรรมดังกล่าวได้มีการลดกำลังการผลิตลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งหากกลุ่มอุตฯดังกล่าวขยายตัวตามที่มีการคาดการณ์ ก็จะเป็นผลดีต่อบริษัทฯที่มีแผนขยายการลงทุนเพื่อรองรับความต้องการถ่านหินในอนาคต