ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสุงสุดในรอบกว่า 1 ปีเมื่อคืนนี้ (24 ธ.ค.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงได้ช่วยหนุนราคาพลังงานและโลหะพุ่งขึ้น ซึ่งทำให้ราคาหุ้นทั้งสองกลุ่มดีดตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนตลาดปิดบวกก่อนวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 30.03 จุด หรือ 0.56% แตะที่ 5,402.41 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,367.84-5,402.41 จุด
นักวิเคราะห์จากอีทีเอ็กซ์ แคปิตอล ในลอนดอนกล่าวว่า หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และพลังงานดีดตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง โดยหุ้นเฟรสนิลโล ซึ่งเป็นผู้ผลิตแร่เงินรายใหญ่ของโลกพุ่งขึ้น 6.1% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดบวก 1.3% และหุ้นริโอทินโตปิดพุ่ง 2.3% ส่วนแรนโกลด์ รีซอร์สเซส ปิดบวก 1.1% หุ้นแองโกล อเมริกัน ปิดบวก 1.1% หุ้นคาซัคมิสปิดบวก 1.2% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดพุ่ง 1.3%
ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปิดบวกเช่นกัน โดยหุ้นบีจี กรุ๊ป ปิดบวก 0.6% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปิดพุ่ง 1% และหุ้นบีพี ปิดบวก 1.5%
ตลาดหุ้นลอนดอนขานรับรายงานจากกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกร่วงลง 28,000 คน แตะระดับ 452,000 คนในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งลดลงมากว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ระดับ 470,000 คน และบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐฟื้นตัวขึ้นแล้ว ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ซึ่งไม่นับรวมสินค้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมการขนส่ง พุ่งขึ้น 2% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ถึงสองเท่า
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 25 ธ.ค.และวันจันทร์ที่ 28 ธ.ค.เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส และจะเปิดทำการอีกครั้งในวันอังคารที่ 29 ธ.ค.