ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้น-วอลุ่มบาง เหตุหยุดเทศกาลคริสต์มาสแล้ว

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 25, 2009 09:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้น โดยตลาดต่างประเทศต่างอยู่ในแดนบวก และภาพโดยรวมไม่ได้มีปัจจัยลบอะไร อีกทั้งคาดว่าตลาดฯน่าจะปรับขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงสัปดาห์หน้าเลย แต่วอลุ่มเทรดอาจจะบางเบา เนื่องจากเป็นวันหยุดเทศกาลคริสต์มาสกันแล้ว

หุ้นที่น่าสนใจคงเป็นหุ้น PTT, PTTEP, SCC และถ้าเป็นหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ตัวเด่นจะเป็นหุ้น STEC เพราะในส่วนของโครงการในมาบตาพุด 19 โครงการนี้ จะมี 2 โครงการที่เป็นของ STEC อยู่ในนั้น ซึ่งก็คิดว่าน่าจะมีโอกาสที่จะได้ลุ้นว่าจะหลุดออกมา เพราะตอนนี้อยู่ระหว่างที่จะรอให้ยื่นอุทธรณ์ และ STEC ก็น่าจะโดดเด่น และสัปดาห์หน้าก็จะเซ็นสัญญา 2 ของสายสีม่วงด้วย ซึ่งคิดว่ายังไง STEC น่าจะปรับขึ้นได้ดี ประเมินราคาเป้าหมายหุ้น STEC ไว้ที่ 7.50 บาท

พร้อมให้แนวรับ 725 จุด แนวต้าน 735-740 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(24 ธ.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,520.10 จุด เพิ่มขึ้น 53.66 จุด(+0.51%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,126.48 จุด เพิ่มขึ้น 5.89 จุด(+0.53%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,285.69 จุด เพิ่มขึ้น 16.05 จุด (+0.71%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 64.25 ล้านบาทเมื่อวานนี้
  • ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 78.05 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.38 ดอลลาร์หรือ 1.8%
  • บอร์ดสิ่งแวดล้อมไฟเขียว ประกาศกระทรวงทรัพย์กำหนดหลักเกณฑ์อีไอเอ-เอชไอเอ รับฟังความเห็นประชาชนเสนอ ครม. 29 ธ.ค.นี้ นายกฯ ยันประกาศใช้ก่อนสิ้นปีนี้ มั่นใจปลดล็อกโครงการลงทุนเพิ่มอีก 5-6 โครงการ หลังศาลปกครองยกเลิกระงับกิจการชั่วคราวให้ "เหล็กสยามยาโมโตะ"

ด้าน "สุวิทย์"เตรียมเรียกเอกชนชี้แจงหลักเกณฑ์ใหม่ เอกชนไม่กังวลขั้นตอนอีไอเอ-เอชไอเอ ยันพร้อมดำเนินการ ห่วงทุกโครงการทำพร้อมกันบุคลากรอาจไม่พอ เสนอรัฐเร่งดำเนินการบางขั้นตอน "สันติ"ขอรัฐเจรจาผ่อนผันดอกเบี้ยแบงก์ ปตท.เตรียมยื่นศาลขอยกเว้นคำสั่งระงับชั่วคราว 9 โครงการ กว่า 5.1 หมื่นล้านบาท พร้อมโรงแยกก๊าซ 6 ยันได้อีไอเอก่อนปี 2550

  • "หอการค้า"คาดเทศกาลปีใหม่ 2553 เงินสะพัด 8.06 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3% ระบุประชาชนเชื่อมั่นเศรษฐกิจกิจดีขึ้น กระตุ้นจับจ่ายใช้สอยคึกคัก
  • รมว.คลัง เผยการขาดดุลงบประมาณปี 53 จะน้อยกว่าที่ประมาณการว่าจะขาดดุล 3.5 แสนล้านบาทเนื่องจากการเก็บรายได้ของรัฐบาลดีขึ้น โดยในส่วนของการเก็บภาษีของกรมสรรพากรในปี 2553 คาดว่าจะเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ถึง 1 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้รัฐบาลกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลน้อยลงโดยรัฐบาลไม่จำเป็นต้องตั้งงบประมาณกลางปี 53 เพิ่มเติมเหมือนปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะมีช่องให้ทำได้ เนื่องจากรัฐบาลมีเม็ดเงินลงทุนโครงการไทยเข้มแข็งกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมากอยู่แล้ว
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. 52 ค่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 104.7 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากเดือนต.ค.ที่ระดับ 104.3 เป็นผลจากดัชนียอดคำสั่งซื้อ ต้นทุนประกอบการปรับตัวสูงขึ้นและความเชื่อมั่นปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน ถือเป็นค่าดัชนีที่สูงที่สุดในรอบ 43 เดือน ตั้งแต่เดือนมี.ค.49
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ห่วงในปี 53 เงินเฟ้อของไทยจะมีความผันผวนมากและนโยบายการเงินอาจจะไม่สามารถดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบที่ระดับ 0.5-3% ต่อปี ดูแล้วจะเป็นกรอบที่เหมาะสมแต่หากใช้นโยบายการเงินดูแลอย่างเดียวอาจจะมีช่วงที่เงินเฟ้อหลุดกรอบเป้าหมายในด้านขาขึ้นและการขึ้นดอกเบี้ยมาสกัดเงินเฟ้อก็อาจไม่สามารถคุมเงินเฟ้อได้
  • สมาคมนักวิเคราะห์เปิดผลสำรวจหุ้นไทยปีหน้า ปรับเพิ่มดัชนีอยู่ที่ 726 จุดโดยขึ้นสูงสุด 845 จุด และสิ้นปีอยู่ที่ 815 จุด ส่วนกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโต 13.3% ขณะที่ยกปัญหาการเมืองเป็นปัจจัยเสี่ยงสูงสุดกดดันตลาดหุ้นในปีหน้า พร้อมทั้งต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหามาบตาพุดและภาครัฐเร่งสร้างความชัดเจนแนวปฏิบัติมาบตาพุด
  • แบงก์ชาติเล็งหาแนวทางดึงเจ้าหนี้นอกระบบเข้าสู่ระบบแบบถูกกฎหมายคาดให้ใบอนุญาตจัดตั้งเป็นนอนแบงก์ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้เพดานดอกเบี้ย 28% ส่วนเรื่องเงินทุนจดทะเบียนอาจต่ำกว่า 50 ล้านบาท น้อยกว่านอนแบงก์ที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน หวังเป็นการจูงใจ
  • แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เผยกระทรวงการคลังจะเร่งมือทยอยเบิกจ่ายเงินกู้ตามโครงการแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ก้อนที่ 2 ที่เป็นวงเงินกู้เทอมโลนอีก 3 หมื่นล้านบาท หลังจากเพิ่งตัดใจกู้เงินสถาบันการเงิน 3 แห่ง คือธนาคารทหารไทย ธนาคารกรุงไทยและธนาคารออมสิน ซึ่งเสนอวงเงินปล่อยกู้และคิดดอกเบี้ยต่ำสุดเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 1.51% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเงินกู้ก้อนแรกที่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.52-1.53% ระยะเวลาเงินกู้ 2 ปี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ