SLC แจงใช้เงินเพิ่มทุนขยายธุรกิจตปท.-ตั้งทีวีข่าวดาวเทียม-ซื้อสิ่งพิมพ์

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 25, 2009 09:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์(1998)(SLC) ชี้แจงเพิ่มเติมต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เกี่ยวกับเหตุผลในการเพิ่มทุนจำนวนมากว่า วัตถุประสงค์การใช้เงินจะมีจัดสรรเงินทุนรองรับธุรกิจปัจจุบัน รวมไปถึงการจัดตั้งบริษัท เอส แอล ซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่ง SLC ถือหุ้น 100% เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจของบริษัทฯ ไปยังต่างประเทศ จำนวนไม่เกิน 200 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทอาจขอรับเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมืออุปกรณ์ชั้นสูง ที่ต้องอาศัยซอฟท์แวร์ เป็นตัวบริหารจัดการ หรือการร่วมลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตซอฟท์แวร์ จากต่างประเทศ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่บริษัทฯ หรือการร่วมทุน หรือแต่งตั้งตัวแทนในต่างประเทศ เพื่อขยายตลาดผลิตภัณฑ์ของบริษัท ไปยังต่างประเทศ

ที่ผ่านมานั้น บริษัทฯมีข้อจำกัดในการรับงานประมูลขนาดใหญ่ โดยเฉพาะงานที่ต้องมีการลงทุนเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านเงินทุน ทำให้หลายโครงการบริษัทฯต้องเข้าร่วมการงาน โดยพึ่งพาเงินทุนของคู่ร่วมประมูล หรือต้องมีการ Subcontract ไปยังบริษัทฯอื่น ทำให้สูญเสียโอกาสเป็นจำนวนมาก

ในส่วนของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ บริษัทฯ กำลังอยู่ในระหว่างการทาบทามผู้บริหาร ที่มีประสบการณ์ ความรู้และความเชี่ยวชาญในธุรกิจซอฟท์แวร์ มาเป็นเวลานาน มาดำเนินการ ส่วนการนำเข้าสินค้า หรือการเพิ่มขอบเขตในการให้บริการ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันของบริษัทฯ นั้น เป็นความชำนาญของกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหม่อยู่แล้ว โดยได้ส่งนายธนพันธ์ วงศ์ชินศรี เข้ามาเป็นกรรมการ และกรรมการอำนวยการ กำกับดูแลด้านการตลาดและบริหารโดยตรง แต่เนื่องจาก โครงการของบริษัทฯกว่า 80% เป็นโครงการของภาคราชการ จึงจำเป็นจะต้องใช้เวลาในการทำตลาดมากพอสมควร

นอกจากนี้ บริษัทจะใช้ลงทุนในธุรกิจ New Medias จำนวนไม่เกิน 300 ล้านบาท เป็นการลงทุนโดยตรงผ่านบริษัทลูก คือ บริษัท สปริง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (SLC ถือหุ้น 100%) ที่จะจัดตั้งขึ้นมาใหม่ ในวงเงินไม่เกิน 200 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์ในการเป็นสถานีข่าวผ่านดาวเทียม 24 ชั่วโมง รวมไปถึงการเผยแพร่ในสื่อหรือช่องทางอื่นๆ เช่น อินเตอร์เน็ต หรือ โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์ Portable Devices อื่นๆ เป็น คาดว่าจะมีการลงทุนในเครื่องมืออุปกรณ์ และสตูดิโอประมาณ 80 ล้านบาท และส่วนที่เหลือประมาณ 120 ล้านบาท จะเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

และอีกประมาณ 100 ล้านบาทนั้น จะเป็นการเข้าถือหุ้นบางส่วน (ไม่เกิน25%) ในธุรกิจ New Medias ที่จะเป็นส่วนเสริมในเรื่องของ Content ให้แก่สถานีข่าวผ่านดาวเทียม

สถานะปัจจุบันคณะกรรมการบริษัทได้มอบหมายให้นายศุทธิชัย บุนนาค กรรมการบริษัท ซึ่งอดีตเคยเป็น ผอ.สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท. มากำกับดูแล และกำหนดความชัดเจนในเรื่องของงบประมาณ การลงทุน ในทุกโครงการและทางบริษัทฯ ยังได้ทาบทามนายฉัตรชัย ตะวันธรงค์ อดีตผู้บริหารของสถานีโทรทัศน์ ไอทีวี ให้เข้ามาเป็นผู้บริหารบริษัทสปริงฯ อีกด้วย

นอกจากนี้จะใช้ลงทุนในธุรกิจผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ จำนวนไม่เกิน 300 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์จะให้เป็นสื่อเสริม หรือสื่ออ้างอิง กับสื่อใหม่ (New Medias) ที่จะดำเนินการภายใต้บริษัท สปริงฯ โดยจะเป็นการเพิ่มช่องทางในการให้บริการให้กว้างขวางและครอบคลุมในทุกสื่อ โดยบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเจรจารูปแบบการดำเนินการตลอดจนการลงทุนอยู่ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุป หรือข้อตกลงใดๆ

SLC ระบุว่า จากการที่บริษัทวางแผนลงทุนในธุรกิจต่างๆทั้งที่เป็นธุรกิจที่ต่อยอดจากธุรกิจเดิม และมีแผนจะขยายกิจการไปยังธุรกิจด้านอื่น แต่เนื่องจากบริษัทไม่มีทรัพย์สินหรือวงเงินสินเชื่อกับธนาคาร จึงต้องระดมทุนจากผู้ถือหุ้นเดิม และการลงทุนในธุรกิจต่างๆนี้ บริษัทจะจัดหาที่ปรึกษาทางการเงินมาตรวจสอบศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุนและราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ความเห็นแก่คณะกรรมการบริษัทในการตัดสินใจและนำเสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาต่อไป

ส่วนวิธีการระดมทุนด้วยการออกใบแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (TSR)เ ป็นการให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นเดิมทั้งหมด และเปิดโอกาสผู้ถือหุ้นสามารถเปลี่ยนมือได้ อีกทั้งราคาการใช้สิทธิในการแปลงสภาพในราคา 4.00 บาท นั้นเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับราคาตลาด และ การออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (Warrant) ซึ่งเป็นตราสารที่ผู้ถือสามารถโอนสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญให้บุคคลอื่นได้ เป็นการให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และเพื่อสำหรับเงินทุนสำรองของบริษัทในอนาคต

หลักเกณฑ์ที่บริษัทใช้ในการกำหนดราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของ TSR และ Warrant 4 บาท/หุ้น ขณะที่มูลค่าตามบัญชีของหุ้น SLC เท่ากับ 1.63 บาท/หุ้น ณ 30 ก.ย.52 บริษัทคำนวณจากราคาคิดลดประมาณ 20% ของราคาตลาดถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 15 วันทำการก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ