โบรกเกอร์เชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไทยออยล์(TOP)คาดปีหน้ารับผลดีจากคาดการณ์ค่าการกลั่นฟื้นตัวเข้าสู่ช่วงขาขึ้นตั้งแต่ปลายปีนี้ และส่วนต่างของราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี โดยเฉพาะอะโรเมติกส์ ในปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน โดยคาดผลประกอบการไตรมาส 1/53 จะดีขึ้นจากไตรมาส 4/52 จากนั้นในช่วงไตรมาส 2/53 จะเป็นช่วงไฮซีซั่น
ส่วนประเด็นในการควบรวมกิจการของกลุ่มบริษัทในเครือ ปตท.นั้น ทุกฝ่ายมองในมุมเดียวกันตั้งแต่แรกแล้วว่า TOP ไม่อยู่ในกลุ่มที่ต้องควบรวมกิจการ อย่างไรก็ตาม ความแน่ชัดของการควบรวมกิจการคงต้องรอความชัดเจนมาบตาพุดก่อนจึงจะประเมินได้
โบรกฯ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.เอเซียพลัส ซื้อ 55.00 (สิ้นปี53) บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) ซื้อ 56.50 สถาบันวิจัยนครหลวงไทย เก็งกำไร/ซื้อสะสม 55.00 บล.ทรีนิตี้ ซื้อ 53.00 บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ซื้อเมื่ออ่อนตัว 48.00
น.ส.นลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส แนะ"ซื้อ"TOP มองค่าการกลั่นน่าจะเข้าสู่ช่วงขาขึ้นถึงไตรมาส 1-2 ปี 53 เนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาวและต่อเนื่องด้วย Driving Season ในสหรัฐ ถ้าภายใต้เหตุการณ์ปกติช่วงไตรมาส 2 ของปี จะเป็นช่วงที่ค่าการกลั่นทำระดับสูงสุดต่อไป จึงมองว่าช่วงครึ่งแรกของปี 53 กำไรน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
ค่าการกลั่นที่ดีขึ้นคงจะไปรับรู้เต็มที่ปีหน้า(53) ส่วนไตรมาส 4/52 อาจจะได้ Stock Gain ที่จะเข้ามาช่วยพยุงไว้ได้บางส่วน แต่กำไรนั้นดีที่สุดอาจจะแค่เพียงทรงๆ ตัว และคาดว่าน่าจะกลับมาดีได้ในช่วงไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ของปีหน้า
"ที่แนะนำคือเรื่องค่าการกลั่นที่น่าจะเริ่มดีดตัวและทำให้กำไรน่าจะเริ่มดีขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี ตอนนี้ค่าการกลั่นอยู่ที่ช่วง 3-4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากช่วงที่ผ่านมาจะเป็น 1-2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล บางทีก็ติดลบ แต่ตอนนี้อยู่ประมาณ 4 เหรียญฯ/บาร์เรลแล้ว" น.ส.นลินรัตน์ กล่าว
ส่วนประเด็นควบรวมกลุ่ม PTT นั้น เนื่องจากจะเน้นสายปิโตรเคมีเป็นหลัก ดังนั้น TOP คงยังไม่ได้นำประเด็นควบรวมมา ณ ขณะนี้ แต่ความแน่ชัดของการควบรวมกิจการคงต้องรอความชัดเจนมาบตาพุดก่อนจึงจะประเมินได้
นายสุทธิชัย คุ้มวรชัย นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)กล่าวว่า ในเชิงพื้นฐานมองผลประกอบการไตรมาส 4/52 ของ TOP อาจจะไม่ได้ออกมาดีมาก แต่แนวโน้มของค่าการกลั่นตอนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มปรับตัวดีขึ้นมาค่อนข้างจะโดดเด่น ตรงนี้น่าจะเป็นปัจจัยบวกให้กับผลประกอบการในไตรมาส 1/53 นอกจากนี้ สเปรดของอะโรเมติกส์ทั้งพาราไซลีนหรือเบนซินก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน
บล.เคจีไอ ระบุว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าการกลั่นอ้างอิงของสิงคโปร์อยู่ที่ประมาณ 4.0 เหรียญ/บาร์เรล ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากเฉลี่ย 1.7 และ 2.0 เหรียญ/บาร์เรลในเดือน พ.ย.และช่วงต้นเดือน ธ.ค.ตามลำดับ เชื่อว่าเป็นปัจจัยสนับสนุนการเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น ได้แก่ TOP และ PTTAR ซึ่งในด้านปัจจัยพื้นฐานการปรับเพิ่มขึ้นของค่าการกลั่นจะมีส่วนสนับสนุนให้ผลประกอบการไตรมาส 1/53 เพิ่มขึ้น รวมถึงมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากของส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีส่วนอะโรเมติกส์ด้วย
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สถาบันวิจัยนครหลวงไทย แนะ"เก็งกำไร"หุ้น TOP โดยมองว่ากลุ่มโรงกลั่นจะ Outperform ในสัปดาห์นี้จากค่าการกลั่น(GRM)ที่เริ่มฟื้นตัวมาอยู่ในระดับเฉลี่ยเหนือ 4 เหรียญ/บาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมาสูงสุดในรอบ 15 สัปดาห์ ขณะที่ราคาน้ำมันที่ขยับสูงขึ้นมานั้น คาดว่าจะทำให้ราคาปิดสิ้นปีโรงกลั่นยังคงมีการบันทึกกำไรจากสต็อกน้ำมัน
ทั้งนี้ TOP ยังคงเป็นหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นที่ราคาค่อนข้าง Laggard ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแนวโน้มผลดำเนินงานใน Q4/52 คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 108% yoy และ -67% qoq สำหรับนักลงทุนระยะยาว"ซื้อสะสม"ราคาเหมาะสม 55 บาท โดยมี upside 27%
นางวชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ มองว่า ช่วงนี้ค่าการกลั่นเพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันกำลังขึ้นอยู่น่าจะเป็นบวกกับ TOP ส่วนประเด็นการควบรวมกิจการนั้น TOP ไม่ได้ถูกมองว่าจะควบรวมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้จะดีในเรื่องค่าการกลั่นแนวโน้มปีหน้าก็น่าจะดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับปีนี้
ส่วนผลประกอบการเนื่องจากช่วงนี้เป็น low season แต่ช่วง high season อยู่แถวไตรมาส 2/53 คงจะดีขึ้นมา