นายสัญญา หาญพัฒนกิจพานิช ทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยถึงกรณีการแข่งขันในตลาดหุ้นหลังเปิดค่าคอมขั้นบันไดที่จะเริ่มใช้ในปี 53 ว่า บริษัทหลักทรัพย์แต่ละแห่งจะหันมาสร้างรายได้ในตลาดตราสารอนุพันธ์ (TFEX)มากขึ้น ดังนั้น บริษัทฯจึงเน้นหนักในการขยายฐานลูกค้าในสินค้าตลาดอนุพันธ์ โดยขยายผ่านฐานลูกค้าหุ้นเดิมที่ยังไม่มีบัญชี TFEX รวมถึงขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มใหม่ที่ไม่เคยซื้อขายหุ้นมาก่อนผ่านสินค้าอย่าง Gold Futures และ Mini-Gold Futures ส่งผลให้บริษัทฯคาดว่าภายใน 3-5 ปีข้างหน้า รายได้จากค่าคอมมิชชั่นของ TFEX จะสามารถแซงหน้าค่อคอมมิชชั่นของตลาดหุ้นได้
ทั้งนี้ จากการแข่งขันที่คาดว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้บริษัทฯต้องหากลยุทธ์ในการขยายฐานลูกค้า TFEX ให้เร็วที่สุด ในเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มโดยวิธีการปูนพื้นฐานในรูปแบบการจัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าอนุพันธ์ต่างๆ ให้กับลูกค้า พร้อมกับการจัดโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม สำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีใหม่ในการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ปี 53
นอกจากนี้ บริษัทฯยังเตรียมการแข่งขันในรูปแบบของการให้บริการ อาทิ การให้ข้อมูลที่ถูกต้อง รวดเร็ว แม่นยำ รวมถึงช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลว่าที่ใดจะมีช่องทางที่สะดวกให้กับลูกค้าได้มากกว่ากัน
“บริษัทฯพยายามปรับตัวเองให้เป็น One-stop service ในเรื่องของการลงทุน เพื่อที่จะให้ลูกค้าสะดวกสบาย และมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น ตัวอย่างเช่น มาเปิดบัญชีที่เดียว แต่สามารถซื้อขายได้ทั้ง หุ้น , โกลด์ฟิวเจอร์ส , ดัชนีหุ้นฟิวเจอร์สและออปชั่น , หน่วยลงทุน, ตราสารหนี้ ฯลฯ ซึ่งอันนี้ถือว่าเป็นหัวใจหลักที่จะทำให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในการลงทุน เพราะการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์แต่ละอย่างในช่วงภาวะสภาพตลาดที่ต่างกันนั้น จะช่วยให้ความเสี่ยงในการลงทุนของลูกค้านั้นลดลงได้เยอะ และสามารถสร้างผลตอบแทนได้เป็นกอบเป็นกำให้กับลูกค้ามากกว่าการลงทุนในตลาดใดตลาดเดียวในระยะยาว"นายสัญญา กล่าว
สำหรับสินค้าที่จะใช้เป็นตัวชูโรงและเป็นตัวดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่เพื่อสร้างรายได้ให้บรรดาโบรกเกอร์ก็คือ Mini-Gold Futures และ Interest Rate Futures ที่จะเข้ามาซื้อขายในปี 53 เนื่องจากนักลงทุนเริ่มหันมาให้ความสำคัญในตลาด TFEX เพื่อเป็นการกระจาย และป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้น และตลาดทองคำ