SENA เตรียมนำโครงการคอนโดฯ เข้าบ้าน BOI,คาดปี 53 รายได้แตะ 1.5 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 4, 2010 09:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการและกรรมการบริหาร บมจ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า บริษัทมีแผนนำโครงการคอนโดมีเนียมที่จะเปิดในปีหน้า 1 โครงการย่านแจ้งวัฒนะเข้าโครงการบ้าน BOI เนื่องจากจะเป็นการช่วยลดต้นทุนในการพัฒนาที่ดิน อีกทั้งยังสามารถตั้งขายราคาที่ไม่สูง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าราคาจะอยู่ที่ประมาณ 8-9 แสนบาทต่อยูนิต

สำหรับโครงการดังกล่าวอยู่ในแผนที่บริษัทจะเปิดโครงการใหม่ ซึ่งจะเป็นคอนโดมีเนียม 3 โครงการ จากทั้งหมดรวม 6 โครงการมูลค่ารวม 4 พันกว่าล้านบาท ส่วน 3 โครงการที่เหลือจะแบ่งเป็นแนวราบ 2 โครงการและธุรกิจให้เช่า 1 แห่งย่านเจริญนคร

"เท่าที่ประเมินตอนนี้สถานการณ์โดยรวมของอสังหาริมทรัพย์ดีกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน เพราะจะเห็นได้จากผู้ประกอบการเทรนการเปิดโครงการมีมากขึ้น ซึ่งเราเองก็มองอย่างนั้น เรามีคอนโดที่เข้า BOI แล้วเหมือนกัน 2โครงการแต่ไกลมาก การที่เราจะทำโครงการคอนโดย่านแจ้งวัฒนะซึ่งเป็นทำเลที่เข้ามาในเมืองหากไม่เข้าโครงการ BOI คงไม่สามารถขายราคาท ไม่แพงได้ และทำเลย่านแจ้งวัฒนะดีมานด์ก็มีมาก และตอนนี้ก็มีแต่ใคร ๆ ทำโครงการที่เข้า BOI ทั้งนั้น " นางสาวเกษรากล่าว

ในส่วนโครงการแนวราบ 2 โครงการนั้น 1 โครงการจะเป็นการเปิดต่อเนื่องจากปีก่อนภายใต้แบรนด์เสนาแกรนด์ โฮม และอีก 1 โครงการจะเป็นโครงการระดับฟรี่เมี่ยมทีอยู่ระหว่างการเจรจาที่ดิน ซึ่งเงินลงทุนดังกล่าวจะอยู่ในงบที่ดินที่บริษัทวางเป้างบลงทุนไว้ประมาณ 700 ล้านบาทมากกว่างบการซื้อที่ดินในปี 52 ที่ใช้งบซื้อที่ดิน 400-500 ล้านบาท

นางสาวเกษรา กล่าวว่า ปีนี้ภาพรวมมีการปรับตัวที่เพิ่มขึ้นจากดีมานด์ที่แท้จริง ซึ่งเห็นได้จากการเข้ามาชมโครงการอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ มาตราการภาษีของภาครัฐที่เข้ามาสนับสนุนและการเปิดโครงการปี 53 ก็มากขึ้น ซึ่งก็น่าจะส่งผลให้ยอดรับรู้รายได้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 พันล้านบาท จากปี 52 ที่รายได้อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท ขณะเดียวกันจะพยายามรักษาอัตราการทำกำไรให้ใกล้เคียงกับปี 55 ที่คาดว่าจะทำได้ 20% ส่วน Gross Margin จะพยายามรักษาให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีนี้เช่นกัน คือ 40%

ปัจจุบัน บริษัทมีแลนด์แบงก์ 800-900 ล้านบาท ซึ่งจะรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในปี 53-54 ขณะเดียวกันในปี 54 คาดว่าสัดส่วนคอนโดมิเนียมหรือโครงการแนวสูงจะเพิ่มขึ้นเป็น 80% และแนวราบ 20% หลังจากพบว่าความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าเปลี่ยนมาเป็นการอยู่คอนโดมีเนียมในเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะผู้บริโภคที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป จากปี 53 ที่คาดว่าสัดส่วนคอนโดจะอยู่ที่ 70% และเชื่อว่าคอนโดจะมีการแข่งขันมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ