นายวีระยุทธ กิตะพาณิชย์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.สมบูรณ์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทมีแผนเจรจาลูกค้ารายเดิมและลูกค้ารายใหม่เพื่อเสนอตัวรับผลิตชิ้นส่วนและประกอบแบบทั้งชุด ในลักษณะเดียวกับที่บริษัทรับผลิตให้กับค่ายคูโบต้า นอกเหนือจากที่บริษัทรับผลิตเป็นชิ้นในปัจจุบัน
"เรามีแนวคิดที่จะเข้าไปเสนองานในการผลิตชิ้นส่วนแล้วนำมาประกอบเป็นชุดให้กับลูกค้า ซึ่งตอนนี้เราก็ผลิตและประกอบเป็นชุดๆ ให้กับฮอนด้า ประเภท ดิสเบรค แต่เป็นประเภทชุดเล็กและก็จำนวนชิ้นไม่มาก และถ้าเราได้งานก็จะเป็นการเพิ่มลายการผลิตมากขึ้นซึ่งก็จะทำให้รายได้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต
สำหรับออร์เดอร์ของค่ายคูโบต้าดังกล่าวมีมูลค่า 600-700 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มผลิตในไตรมาส 3/53 ทยอยรับรู้รายได้บางส่วนในปีนี้ และจะไปรับรู้ฯ เต็มปี 54 ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 53-54
นายวีระยุทธ กล่าวว่า การรับผลิตชิ้นส่วนและประกอบเป็นชุด ถือว่าเป็นการเพิ่มไลน์การผลิตที่ต้องมีการลงทุนเครื่องจักรและขยายพื้นที่ในโรงงาน รวมทั้งการลงทุนในไลน์เดิมของคูโบต้า คาดว่าจะเพิ่มมากว่า 3 เครื่อง ใช้เงินลงทุนมากว่า 600 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตคูโบต้า โดยเฉพาะการผลิตเป็นชิ้นจะเพิ่มเป็น 3 หมื่นยูนิตต่อปี จากปี 52 ที่กำลังการผลิตอยู่ที่ 2.2 หมื่นยูนิตต่อปี
นอกจากนั้น บริษัทยังพยายามหาลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยบริษัทได้มีการเจรจากับบริษัท ซูซุกิ มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อขอมีส่วนร่วมในโครงการผลิตรถยนต์ขนาด 1.3 ลิตรหรืออีโคคาร์ ที่ซูซุกิจะเริ่มสายการผลิตในประเทศไทย คาดหวังว่าจะได้รับประโยชน์ในส่วนของการผลิตสปริงหรือดิสเบรกบ้าง น่าจะเห็นความชัดเจนในปี 53 หลังจากที่สามารถสรุปผลการเจรจาในการผลิตสิ้นส่วนรถยนต์ประเภทอีโคคาร์ให้กับกับค่ายนิสสันและค่ายฮอนด้ามาแล้ว
นายวีระยุทธ กล่าวต่อว่า ผลประกอบการของบริษัทในปีนี้น่าจะปรับตัวดีขึ้น ตามสัญญานการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีทิศทางดีขึ้นมาก โดยคาดว่าปริมาณการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยปี 53 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.1-1.25 ล้านคัน จากปี 52 ที่ยอดผลิตอยู่ที่ประมาณ 9 แสนคัน ซึ่งบริษัทก็จะได้รับอานิสงส์ด้วย
รวมทั้งสัญญานจากออร์เดอร์ลูกค้าที่เข้ามาทั้งลูกค้ารายเดิมและรายใหม่ คาดว่าในปี 53 ยอดขายจะเติบโตไม่น้อยกว่า 20% หรือประมาณ 5.5 พันล้านบาท และจากงานใหม่ ๆ ที่ได้รับจะสนับสนุนให้ยอดขายของบริษัทในปี 54 มีโอกาสที่จะเพิ่มเป็น 5,800-6,000 ล้านบาท
รวมทั้ง บริษัทยังได้รับออเดอร์ใหม่เข้ามา โดยมีออร์เดอร์สำหรับอีโคคาร์ค่ายนิสสัน ที่คาดว่าน่าจะออกมาในช่วง ไตรมาส 1/53 และการผลิตให้กับคูโบต้าจะทำให้ SAT มีอัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)ที่ดีกว่าที่ทำให้กับรถยนต์ทั่วไป