ประธานผู้แทนการค้าไทย คาดใช้เวลา 1 เดือนเพียงพอที่จะศึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับสัญญาสัมปทานโครงการออกสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัวแบบอัตโนมัติ(หวยออนไลน์) ด้านโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยอีก 2-3 วันจะมีคำสั่งตั้งคณะทำงานที่ชัดเจน
"โครงการนี้ผ่านมาหลายรัฐบาลแล้ว จึงต้องดูกระบวนการและขั้นตอนทั้งหมดว่าดำเนินการมาอย่างไร และมีพันธะสัญญาผูกพันกับใครบ้าง เชื่อว่าน่าจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป โดยจะต้องศึกษารายละเอียดทั้งหมดภายใน 1 เดือน" นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้ทบทวนโครงการดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าส่งผลกระทบทางสังคมในวงกว้าง
ประธานผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกว่าจะมีคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีออกมา ซึ่งเบื้องต้นคงจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสัญญาและดูว่ามีทางเลือกใดบ้างในแง่ของสัญญาต่างๆ ที่ทำไว้ โดยยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการล้มโครงการหวยออนไลน์
ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ยืดเยื้อมานานหลายปี และมีสัญญาข้อผูกพัน นายกรัฐมนตรีจึงให้ไปตรวจสอบดูว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความเสียหายจากสัญญาและข้อผูกพันต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับต่างประเทศ จึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาโดยมีนายเกียรติเป็นประธาน ซึ่งคาดว่าภายใน 2-3 วันคงจะมีความชัดเจนถึงแนวทางการทำงานว่าภายใน 1 เดือนจะเป็นอย่างไร
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การขายสลากเป็นเรื่องที่ทุกคนห่วงใยอยู่แล้วว่าจะนำไปสู่การขยายการซื้อ หรืออาจนำไปสู่ประเด็นที่ซับซ้อน ในภาพรวมไม่อยากให้มีการขยายหรือเพิ่มกิจกรรมประเภทนี้ ขณะเดียวกันกิจกรรมที่มีอยู่แล้วต้องดูแลให้รัดกุมและเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่ผู้ค้าสลากออกมาแสดงความไม่พอใจ และประกาศจะเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อขับไล่รัฐบาลนั้น นายปณิธาน กล่าวว่า เรื่องนี้จะปรึกษาหารือกันเพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับความพอใจ โดยอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายและสัญญาข้อตกลงต่างๆ คือไม่ให้ผู้ที่อยู่ในสัญญาเกิดความเสียหาย ขณะเดียวกันรัฐบาลก็รับฟังความคิดเห็นของสังคมและผู้ปกครองที่เป็นห่วงกิจกรรมประเภทนี้ จึงต้องให้เกิดความสมดุลกัน
"คิดว่าภายใน 1 เดือนจะมีคำตอบว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้ทุกคนได้รับความพอใจ ความจริงรัฐบาลไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้บริษัทหรือคู่สัญญาที่เกี่ยวข้องได้รับความกระทบกระเทือน ขณะเดียวกันน้ำหนักของสังคมที่สะท้อนเรื่องนี้ก็ต้องการให้กิจกรรมเหล่านี้ได้รับการควบคุมดูแลให้ดีขึ้นและเป็นไปตามกฎหมาย"นายปณิธาน กล่าว