นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานกรรมการ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อปลายปี 52 อนุมัติเงินลงทุน 135 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อใช้ลงทุนในปี 53 แบ่งเป็นการลงทุนในการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพโรงงานปิโตรเคมี ประมาณ 70 ล้านเหรียญสหรัฐ การลงทุนขยายการให้บริการถังเก็บผลิตภัณฑ์ ประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ และลงทุนขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติก 55 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งทั้ง 3 โครงการ มีผลตอบแทนโครงการเกือบ 100%
การลงทุนใน 3 โครงการ เป็นการลงทุนภายใต้โครงสร้างใหม่ที่ IRPC มุ่งเน้นใน 4 ด้าน ประกอบด้วย Operation Efficiency Improvement (OEI) ซึ่งเป็นการดำเนินการเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในด้านต่างๆ, Asset Utilization Enhancement (AUE) เป็นการนำทรัพย์สินที่มีอยู่มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้มากขึ้น, Product & Service Improvement เป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์และการให้บริการให้ดีขึ้น และ Capacity & Production Expand (CPE) เป็นการขยายกำลังการผลิต
นายณอคุณ กล่าวว่า ในปีนี้แม้ว่าจะคาดการณ์ว่าสถานการณ์ปิโตรเคมีจะอยู่ในช่วงขาลง แต่ IRPC ยังเดินหน้าปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และมีการทำแผนงานโครงการนกฟีนิกซ์ ซึ่งภายใต้โครงการนี้จะมีการดำเนินงานในด้านต่างๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ 16 แผนงาน โดย 3 โครงการที่ผ่านการอนุมัติจากบอร์ดปลายปีที่แล้วก็อยู่ภายใต้แผนงานนี้
"มองว่าธุรกิจปิโตรเคมีของบริษัทยังดีอยู่ เพราะ IRPC เป็น Integrated ที่มีทั้งโรงกลั่นน้ำมัน และโรงงานปิโตรเคมี สามารถที่จะนำผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโรงกลั่นน้ำมันมาเป็น Feed Stock ของโรงงานปิโตรเคมีได้ทำให้สร้างมูลค่าเพิ่มได้มากขึ้น ในขณะที่โรงกลั่นน้ำมันของไออาร์พีซีก็วางแผนการกลั่นให้อยู่ในระดับที่พอดี และมีกำไร" นายณอคุณ กล่าว
นายณอคุณ กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน แม้ในปี 51 จะมีผลขาดทุน เนื่องจากปีที่แล้วราคาส่วนต่างปิโตรเคมีดีในทุกผลิตภัณฑ์ และค่าการกลั่นนน้ำมันยังอยู่ในระดับที่มีกำไร รวมทั้งไม่มีการขาดทุนจากการสต็อกน้ำมัน