นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากบมจ.การบินไทย (THAI) เกี่ยวกับการยื่นใบลาออกของนายวัลลภ พุกกะณะสุต ทั้งตำแหน่งกรรมการ และ ประธานกรรมการบริหาร โดยในเย็นวันนี้ นายอำพน กิตติอำพน ประธานกรรมการ THAI จะชี้แจงรายละเอียดต่อไป
นายอำพน กิตติอำพน ประธานคณะกรรมการ THAI กล่าวว่า นายวัลลภ ยื่นใบลาออกตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.53 และมีผลวันที่ 5 ม.ค.53 โดยขอลาออกจากทุกตำแหน่ง ได้แก่ ประธานกรรมการบริหาร THAI และ กรรมการ THAI รวมทั้ง กรรมการสายการบินนกแอร์ และกรรมการชุดต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมายจากบริษัท
การลาออกของนายวัลลภ เป็นการแสดงความรับผิดชอบและจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับบริษัท ขณะที่การสอบสวนข้อเท็จจริงยังไม่แล้วเสร็จ โดยกำหนดจะแล้วเสร็จในวันที่ 11 ม.ค. และเสนอคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 15 ม.ค.53 แม้ว่าหากผลสอบสวนออกมาว่านายวัลลภไม่มีความผิด แต่นายวัลลภก็ยืนยันที่จะไม่กลับมารับตำแหน่งในบริษัทอีก
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่จะต้องมีผู้รับชอบค่าระวางที่เกินกว่ากำหนด ซึ่งในเบื้องต้นน้ำหนักสัมภาระที่มีผู้บินกลับมาพร้อมกับนายวัลลภอีก 2 คน รวมเป็น 3 คนมีของอยู่ 30 ชิ้น น้ำหนักรวมกัน 398 กิโลกรัม ซึ่งเข้าใจว่าน้ำหนักเกินไม่ต่ำกว่า 150 กิโลกรัม จะมีการหาผู้รับผิดชอบต่อไป
"เรื่องนี้ผมก็เสียใจ คุณวัลลภก็เสียใจ แต่เมื่อคุณวัลลภออกไปก็จะเป็นการสร้างบรรทัดฐาน เรื่องนี้อย่าเอาการเมืองมายุ่ง และถ้าผลสอบสวนออกมาแล้วคุณวัลลภไม่ผิด ท่านก็ไม่กลับมา ท่านรักบริษัทนี้มาก"นายอำพน กล่าว
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริษัทได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงของข้อกล่าวหาที่ว่านายวัลลภ อาศัยตำแหน่งหน้าที่ทำการขนกระเป๋าสัมภาระจำนวน 30 ใบ น้ำหนักกว่า 398 กิโลกรัมจากสนามบินนาริตะเข้าประเทศไทยอย่างไม่ถูกต้องตามกฎระเบียบขององค์กร และระเบียบการบิน ซึ่งการขนสัมภาระหลายร้อยกิโลกรัมในครั้งนี้ ยังอาศัยสถานะการเป็นผู้บริหารระดับสูงของการบินไทย เคลื่อนย้ายกระเป๋าโดยไม่ผ่านกระบวนการภาษีทางศุลกากร
คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ประกอบด้วย นายคณิศ แสงสุพรรณ ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เป็นประธาน และมีนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม อธิบดีกรมสรรพสามิต และนายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นกรรมการร่วมตรวจสอบ มีกำหนดเวลาสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 3 สัปดาห์นับตั้งแต่วันประชุมคณะกรรมการเมื่อ 19 ธ.ค.52