AMATA คาดสรุปยอดขายที่ดินปี 52 ที่ 250 ไร่บวก/ลบ ใกล้เคียงโบรกฯประเมิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 5, 2010 18:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น(AMATA)คาดว่า บริษัทจะปิดการขายที่ดินในปี 52 ได้ประมาณ 250 ไร่บวก/ลบ ซึ่งเป็นไปตามที่มีโบรกเกอร์ประเมินไว้ แต่ก็ยอมรับว่าเป็นปีที่เลวร้ายภายใต้สถานการณ์ทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ

แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับปี 53 ที่บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 400 ไร่นั้น ยังต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยทางการเมือง หากการเมืองไม่ดี ก็ยอมรับว่าเป้าหมายคงจะทำได้ยาก เพราะต้องยอมรับว่าธุรกิจเราผูกกับการเมืองค่อนข้างมาก และตอนนี้ก็ไม่รู้สถานการณ์จะเป็นอย่างไร ยังประเมินไม่ได้ว่าจะออกมารูปแบบไหน นอกจากนั้น ปัจจัยเรื่องปัญหามาบตาพุดก็ยังไม่รู้บทสรุป

ส่วนการที่เศรษฐกิจของไทยในขณะนี้เคลื่อนไหวไปได้ เพราะได้น้ำเกลือจากภาครัฐมากกว่า จึงยังต้องรอดูต่อไปว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร

"แต่ถ้าการเมืองนิ่งเศรษฐกิจนิ่ง ผมว่า 400 ไร่ที่ประเมินกันไว้ดูถูกผมเกินไป"นายวิบูลย์ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

ขณะที่ บทวิเคราะห์ของ บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่าเบื้องต้นบริษัทปิดยอดขายปี 52 ได้ที่ 250 ไร่ แบ่งเป็นอมตะนครที่ชลบุรี 200 ไร่ และ อมตะซิตี้ที่ระยอง 50 ไร่ ส่วนตัวเลขสุทธิอยู่ระหว่างการจัดเก็บตัวเลขให้มีความแน่นอนและถูกต้อง

แม้ว่ายอดขายดังกล่าวจะห่างจากเป้าหมายที่บริษัทเคยตั้งไว้ที่ 300 ไร่ แต่ก็ถือว่าปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก จากก่อนหน้านี้ตั้งแต่ต้นปีถึงต้น ธ.ค.52 ทำได้ 120 ไร่ ก็ถือว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้น อีกทั้งหากเทียบกับประมาณการยอดขายปี 52 ของเราที่ให้ไว้ที่ 150 ไร่ ก็ถือว่าทำได้กว่าที่คาดไว้มากพอควร แต่ยังไม่มีการปรับประมาณการปี 52 เพราะยอดขายที่เพิ่มส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี

ส่วนในเรื่องผลกระทบจากความมั่นใจของนักลงทุนต่างประเทศที่ลดลง จากการหยุดโครงการมาบตาพุด เราคาดว่าจะทยอยฟื้นตัวดีขึ้น หลังจาก ครม.มีความชัดเจนในเรื่องการกำหนดให้มีใบอนุญาตสภาพแวดล้อม (EIA) และใบอนุญาตทางด้านสุขภาพ (HIA) อีกทั้งหากในที่สุดแล้วศาลปกครองมีคำสั่งให้อีก 19 โครงการที่จะมีการอุทธรณ์สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ ก็จะยิ่งเป็นแรงหนุนในเรื่องความมั่นใจจากนักลงทุนต่างประเทศต่อการลงทุนมายังไทยให้ฟื้นตัวดีขึ้น

ส่วนประมาณการยอดขายในปีนี้ที่ 400 ไร่ เราเห็นว่าหากปัจจัยการเมืองไทยไม่ร้อนแรง และเศรษฐกิจโลกและไทยมีการฟื้นตัวได้ดี ทาง AMATA ก็มีโอกาสที่จะทำยอดขายได้สูงกว่านี้ เพราะเป็นผู้นำตลาดนิคมอุตสาหกรรมในไทย คงคำแนะนำซื้อ เราคาดว่าธุรกิจของ AMATA ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 52 ที่ผ่านมา ขณะที่การฟื้นตัวจะมีลักษณะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ราคาพื้นฐานกำหนดไว้ที่ 11.03 บาท ซึ่งประเมินด้วยส่วนลด 10% จากมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (RNAV) ของ AMATA


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ