RASA เจรจาซื้อที่ดิน NPA แบงก์ทำโครงการปีนี้,หันจับทาวน์เฮ้าส์ครั้งแรก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 6, 2010 10:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเลิศมงคล วราเวณุชย์ กรรมการ บมจ.รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์(RASA)จำกัด เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทมีแผนจะเจรจากับธนาคารพาณิชย์เพื่อขอซื้อที่ดิน(NPA)ในช่วง 1-2 เดือนเพื่อนำที่ดินดังกล่าวมาพัฒนาโครงการ นอกเหนือการเจรจาลักษณะการร่วมทุนกับเจ้าของที่ดินแห่งหนึ่งได้ยุติลงไปแล้วก่อนหน้านี้ เนื่องจากไม่สามารถตกลงเงื่อนไข โดยเฉพาะราคา

แต่อย่างไรก็ตาม แม้การร่วมทุนกับเจ้าของที่ดินรายดังกล่าวยุติลงก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานหรือแผนการพัฒนาโครงการในปี 53 เพราะบริษัทก็ยังมีการเจรจากับเจ้าของที่ดินแห่งอื่นอีก 1-2 รายทั้งเจ้าของที่ดินโดยตรง และธนาคารพาณิชย์ ประกอบกับ การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ผ่อนผันให้ธนาคารพาณิชย์สามารถนำที่ดินที่ยึดมาร่วมทุนกับผู้ประกอบการ ทำให้มีช่องทางที่มากขึ้น อีกทั้งการซื้อที่ดินจากธนาคารพาณิชย์ยังเป็นการลดความเสี่ยงจากการลงทุนด้วย

นายเลิศมงคล กล่าวว่า บริษัทไม่ได้รีบเร่งที่จะสรุปการเจรจา เพราะตามแผนหากเจรจาสำเร็จก็จะดำเนินการพัฒนาโครงการในช่วงไตรมาส 3/53-ไตรมาส 4/53 เพื่อไปรับรู้รายได้ในปี 54 เพราะในปี 53 บริษัทมียอดขายรอโอน(backlog)ตุนไว้ที่จะทยอยรับรู้ฯภายปีนี้ประมาณ 1.4 พันล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 1.3 พันล้านบาท และที่เหลือ 100 ล้านบาทเป็นโครงการบ้านเดี่ยว

นอกจากนี้ อาจมีการรับรู้รายได้บางส่วนจากโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 53 จำนวน 1-2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 1 พันล้านบาท

ดังนั้น การที่บริษัทวางเป้าหมายรายได้ในปี 53 ที่ 1,080 ล้านบาท หรือเติบโต 2 เท่าจากปี 52 ที่คาดรายได้จะอยู่ที่ 540 ล้านบาทไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก และปีนี้ยังถือเป็นปีที่มีรายได้สูงสุดตั้งแต่บริษัทเปิดทำการในปี 38 เป็นต้นมา

สำหรับรูปแบบของโครงการใหม่ที่จะพัฒนาในปี 53 เบื้องต้นจะมีทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง แต่จะให้ความสำคัญโครงการแนวราบเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเภททาวน์เฮ้าส์ที่ไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งจะช่วยเพิ่มพอร์ตโครงการแนวราบให้มากขึ้นด้วย จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 25% และอีก 75% เป็นโครงการคอนโดมิเนียม ขณะที่โครงการประเภทคอนโดมิเนียมจะยังให้ความสำคัญ แต่อาจจะเป็นคอนโดมิเนียมขนาด 8 ชั้น เพราะปัจจุบันคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่จะเป็นโครงการสูง เช่น 32 ชั้น หรือ 38 ชั้น

"ตอนนี้เรากำลังหาที่ดินและเจรจาในการซื้อที่ดินมาพัฒนาโดรงการแนวราบ โดยเฉพาะทาวน์เฮ้าส์ที่ระดับราคา 3-5 ล้านบาทที่เราไม่เคยทำ เพราะจะเป็นการเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้เรานอกเหนือบ้านเดี่ยว แต่ทั้งนี้ก็คงขึ้นอยู่กับที่ดิน เราคงเน้นทำเลที่เรามีโครงการอยู่แล้ว อย่างเช่น ย่านเกษตรนวมินท์ รามอินทรา ซึ่งหากเจรจาได้ก็คงพัฒนาโครงการมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท"นายเลิศมงคลกล่าว

ปัจจุบัน บริษัทมีวงเงินที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทเพื่อใช้ซื้อที่ดินในปี 53 แล้ว 250 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามากกว่าปี 52 ที่ได้วงเงิน 100 ล้านบาทแต่ยังไม่ได้ใช้เพราะการพิจารณาการซื้อที่ดินมาพัฒนาต้องเน้นความคุ้มค่าในการลงทุน แต่อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทมีวงเงินเตรียมไว้ ทำให้บริษัทไม่ต้องกังวล

กรรมการ RASA กล่าวยอมรับว่าการเจรจาของนักลงทุนสถาบันต่างประเทศที่เคยแสดงความสนใจที่จะเข้าลงทุนในหุ้นของบริษัทตอนนี้ได้ยุติลงไปแล้ว เนื่องจากเงื่อนไขความต้องการไม่ตรงกันทั้งในแง่ที่นักลงทุนสถาบันต้องการเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วนที่มาก รวมทั้งทุนจดทะเบียนของบริษัทมีเพียงแค่ 400 ล้านบาทและสภาพคล่องน้อยมาก และในขณะเดียวกันก็มองว่าการเพิ่มทุนคงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีและคงไม่เกิดขึ้นแน่นอนในช่วงสั้นนี้ เนื่องจากราคาหุ้นอยู่ที่ 3 บาทกว่า ซึ่งต่ำกว่าบุ๊คที่ 7 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ