PLE มั่นใจปี 53 พลิกมีกำไร-รายได้โต 10% หวังได้งานใหม่ 1.5 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 7, 2010 10:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง(PLE)ระบุ ปี 53 ฟื้นตัวกลับมามีกำไรจากขาดทุนในปีก่อน ขณะที่รายได้ประมาณการเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่คาดทำได้ 8,700 ล้านบาท สำหรับงานใหม่ปีนี้เชื่อว่าจะได้อย่างน้อย 1.5 หมื่นล้านบาท ลุ้นงานกาตาร์ที่จะรู้ผลประมูลในไตรมาส 1/53 ส่วนงานในประเทศคาดได้ประมาณ 6-7 พันล้านบาท เพราะยังไม่มั่นใจงบโครงการไทยเข้มแข็งจะเดินหน้าได้ จากภาวะการเมืองไม่นิ่ง

"ปีนี้ผมว่า(Gross Margin)น่าจะดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว ผมว่าสัก 10% ก็สวยแล้ว ปีที่แล้วติดลบก็ยังขาดทุน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเก็บหนี้ไม่ค่อยได้ โดยปีที่แล้วตั้งสำรอง 700-800 ล้านบาท แต่คิดว่าปีนี้จะพลิกมีกำไรได้ โดยงานในกาตาร์ที่เหลือจะรับรู้หมดในปีนี้ ส่วนไทยเข้มแข็งก็ไม่ค่อยหวังมาก การเมืองแบบนี้หวังยาก"นายเสวก ศรีสุชาติ ประธานกรรมการ PLE กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

นายเสวก กล่าวว่า รายได้ในปีนี้น่าจะเติบโตได้ราว 10% หรือเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาท จากปี 52 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 8,700 ล้านบาท โดยในปีนี้รายได้ของต่างประเทศคาดว่าจะขยายตัว 15% ส่วนรายได้ในประเทศทรงตัว จึงเฉลี่ยรายได้รวมทั้งปีจะเพิ่มประมาณ 10%

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้งานต่างประเทศในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 40% จากปีก่อนอยู่ที่ 30% โดยงานในประเทศเสร็จล่าช้ากว่า เพราะการเมืองไม่นิ่ง

อนึ่ง ในงวด 9 เดือนของปี 52 บริษัทมีรายได้ 6.3 พันล้านบาท ขาดทุน 784.8 ล้านบาท

ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ (backlog) มีประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นงานต่างประเทศ หรืองานในกาตาร์จำนวน 5 พันล้านบาท(จากมูลค่าโครงการ 8.5 พันล้านบาท) และงานในประเทศ จำนวน 6 พันล้านบาท

*หวังได้งานใหม่อย่างน้อย 1.5 หมื่นลบ.รอรับรู้ 2 ปี

นายเสวก กล่าวว่า ในปี 53 บริษัทคาดว่าจะได้งานใหม่อย่างน้อย 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งจะมาจากงานประมูลในกาตาร์ที่บริษัทเข้าประมูลแล้ว 2 โครงการๆ ละกว่า 4 พันล้านบาท รวม 8-9 พันล้านบาท เป็นงานสร้างอาคารสูงของเอกชน และส่วนราชการ คาดว่าจะรู้ผลประมูลลในไตรมาส 1/53 ซึ่งบริษัทคาดหวังจะได้งานอย่างน้อย 1 โครงการ โดยระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี

สำหรับการรับงานในต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทมีที่กาตาร์แห่งเดียว อย่างไรก็ตาม ก็อาจหาจังหวะเข้าหางานในกัมพูชา มาเลเซีย โอมาน และ บาห์เรน ในอนาคตด้วย

"ปีนี้ยังไม่ไปประเทศไหน ที่กาตาร์ประเทศเดียวก็พอแล้ว เรามั่นใจงานต่างประเทศมีมากกว่าในประเทศ เราลุยอยู่ประเทศเดียว"ประธานกรรมการ PLE กล่าว

ส่วนงานในประเทศ ยอมรับว่าประเมินลำบาก โดยคาดเบื้องต้นในปีนี้ได้งานไม่เกิน 5 พันล้านบาท หรืออาจมี 6-7 พันล้านบาท หากมีโครงการไทยเข้มแข็งออกมามาก ก็มีแนวโน้มได้งานก็จะมากขึ้นกว่าที่ประเมินไว้

"ปีนี้เราคิดว่าจะรับรู้รายได้ 9,000-10,000 ล้านบาท เราก็ต้องมีออเดอร์ล่วงหน้าไว้ก่อนอย่างน้อย 15,000 ล้านบาท ถ้าผมรับงานต่างประเทศ 8 พันล้าน ในไทยอีกสัก 6-7 พันล้าน และถ้าเมืองไทยมีโครงการไทยเข้มแข็งมีงานออกมาเยอะ ก็อาจจะออกมาได้เยอะ ก็ว่ากันไป"นายเสวก กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทได้งานใหม่ในประเทศ 2 งาน ได้แก่ งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญาที่ 3 มูลค่างาน 5,025 ล้านบาท โดย PLE เช้าร่วมทุนกับกลุ่ม PAR Joint Venture ซึ่งประกอบด้วย บริษัท รวมนครก่อสร้าง (ประเทศไทย) จำกัด, บมจ.แอสคอน คอนสตรัคชั่น(ASCON)และ PLE

และงานโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงใหม่ ที่มีมูลค่าสัญญา 1,867 ล้านบาท โดยตั้งกิจการร่วมค้าอีเอ็มซีและเพาเวอร์ไลน์ โดย PLE ถือหุ้น 51% และบมจ.อีเอ็มซี(EMC)ถือ 49%

นายเสวก กล่าวว่า ขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับหุ้นส่วนเพื่อขอปรับปรุงสัดส่วนหุ้นของ PLE เพิ่มเป็น 50% ในกลุ่ม PAR Joint Venture ขณะที่การลงนามในสัญญาว่าจ้างงานก่อสร้างรถไฟสายสีม่วง สัญญา 3 จะล่าช้าไปบ้าง ก็จะไม่กระทบเพราะเริ่มงานก่อสร้างกลางปี 53

ส่วนงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ ระยะทาง 27 กม. มูลค่าโครงการ 5.2 หมื่นล้านบาทที่จะเปิดประมูลเดือนม.ค.นี้ นายเสวก กล่าวว่า บริษัทต้องรอดูเงื่อนไขการประมูล(TOR)ก่อน หากเข้าประมูลด้วยบริษัทเองได้รายเดียวก็จะเข้าประมูลเอง แต่หากจะจับมือหรือร่วมทุนกับบริษัทไหน ก็ยังต้องดูกันไป

ทั้งนี้ บริษัทจะได้รับเงินเพิ่มทุนประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รองรับงานใหม่ หลังจากคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติเพิ่มทุนจาก 726 ล้านบาท เป็น 1,272 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่ จำนวน 546,148,856 หุ้น จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม ตามสัดส่วนการถือหุ้น 1:1 ในราคาที่เสนอขาย 1 บาท/หุ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ