โบรกเกอร์ ส่วนใหญ่แนะ"ซื้อ"หุ้น ธนาคารทหารไทย(TMB)คาดปี 53 มีการเติบโตของสินเชื่อค่อนข้างมาก หลังเห็นสัญญาณฟื้นตัวในไตรมาส 4/52 ทำให้ผลกำไรจะดีขึ้นกว่าปีก่อน และแผนการล้างขาดทุนสะสมก็มีความเป็นไปที่จะจบภายในปี 53 จะทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับปันผลเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ขณะเดียวกันมีการเก็งกำไรตามกระแสข่าวที่กระทรวงการคลังจะขายหุ้น TMB หลัง พ.ค.53
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
บล.กสิกรไทย ซื้อ 1.80
บล.ทรินีตี้ ซื้อ 1.57
บล.เอเซียพลัส ซื้อ 1.55
บล.บีฟิท เทรดดิ้ง รอปรับประมาณการ
บล.ฟิลลิป ขาย 1.16
นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย มองในแง่พื้นฐาน เห็นว่า ขณะนี้ สินเชื่อของ TMB กลับมาขยายเป็นบวกตั้งแต่ไตรมาส 4/52 และปี 53 สินเชื่อน่าจะกลับมาดีขึ้นมาก และทางผู้บริหารก็มีนโยบายเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแผน TMB จะมี Earning ที่ดี ปีนี้จะฟื้นตัวกว่ารายอื่นมาก ในขณะที่แผนการล้างขาดทุนสะสมจะมีความชัดเจนขึ้น หากล้างขาดทุนสะสมได้ภายในปีนี้ หมายถึงปีหน้า(54)จะจ่ายเงินปันผลได้ ซึ่งก็จะเป็นปัจจัยบวกเข้ามาเสริมอีก
"ผมไม่ได้มองเชิงเก็งกำไร เรื่องกระทรวงการคลังจะขายหุ้น แต่ถ้าจะเข้าไปซื้อหุ้นตัวนี้ ผมมองในเชิงปัจจัยพื้นฐาน...ตอนนี้หุ้น TMB น่าสนใจ เราทำราคาพื้นฐานไว้ 1.80 บาท P/E ประมาณ 15 เท่า ถ้ามองในแง่ปัจจัยพื้นฐานก็ยังมี upside"นายกวี กล่าว
อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องการขายหุ้นของกระทรวงการคลังยังไม่น่าสนใจ เพราะไอเอ็นจีเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ยังไม่เห็นความชัดเจน
บทวิเคราะห์ของ บล.เอเซียพลัส ปรับปรุงประมาณการกำไรสุทธิปี 52 ของ TMB เพื่อสะท้อนผลการดำเนินงานไตรมาส 4/52 ที่แม้จะแสดงการเติบโตในเชิงรุก แต่ก็ยังต่ำกว่าเดิมที่เคยประเมินไว้ ทั้งนี้ สัญญาณบวกของทิศทางสินเชื่อที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวในเชิงรุกมากขึ้นในช่วงปลายปี 52 คาดว่าจะต่อเนื่องไปในปี 53 โดยที่ธนาคารฯ มีนโยบายจะเร่งการเติบโตของธุรกิจมากขึ้นภายหลังจากที่ได้ทำการปรับปรุงระบบงาน และพนักงานอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเติบโตเชิงรุกในระยะยาว
ฝ่ายวิจัยประเมินแนวโน้มกำไรสุทธิปี 53 เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปี 52 อีกทั้งยังสามารถคาดหวังเงินปันผลจาก TMB ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการล้างขาดทุนสะสมที่คาดไว้เมื่อผ่านพ้นเดือน พ.ค.53 ไปแล้ว
ด้าน น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า กรณีที่ ประธานกรรมการ TMB คาดว่ากำไรปี 53 จะอยู่ราว 2.4-2.5 พันล้านบาท จะต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ที่ 3.5 พันล้านบาท ทำให้เห็นว่าการฟื้นตัวช้า แต่ที่เห็นมีการเข้าไปเล่นเก็งกำไร อาจจะไม่ได้อยู่บนปัจจัยพื้นฐาน อาจจะเล่นข่าวที่กระทรวงการคลังจะขายหุ้น TMB ออกไป โดยเก็งกันว่าจะขายที่ 1.5 เท่าของมูลค่าทางบัญชี หรือไม่ก็เท่ากับราคาที่ไอเอ็นจีซื้อไปที่ราคา 1.60 บาท/หุ้น
"ในแง่พื้นฐาน เราแนะขายมาพักหนึ่ง แต่ถ้าแง่เก็งกำไร ก็มี story ให้เล่นได้อยู่ แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวัง ซึ่งเราไม่ได้แนะนำ โดยแง่ฟื้นฐานคงจะฟื้นตัวไม่เร็ว และการลดพาร์ล้างขาดทุนสะสมก็เป็นข่าวมาตลอด เราก็มองว่ารับรู้มาแล้ว ข่าวพวกนี้เราโอเค เราถือว่าเป็นข่าวดี แต่ผลกำไรที่ออกมาจะเห็นพื้นฐานของบริษัท"น.ส.ศศิกร กล่าว
ทั้งนี้ ในเดือน พ.ค.53 กระทรวงคลังจะแปลงหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญ โดย น.ส.ศศิกร เห็นว่าเป็นการเก็งกำไรที่เร็วเกินไป
นายศรัณย์ ถวิลหวัง รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.บีฟิท มองว่า ปี 53 การขยายตัวของสินเชื่อเติบโตอย่างแน่นอน โดยได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังรุกสินเชื่อเอสเอ็มอี ซึ่งนายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB ก็ถนัดอยู่แล้ว จึงคาดว่าปีนี้กำไรจะฟื้นตัว
"มีการเก็งกำไร แต่ก็เป็นเรื่อง High risk high return ผมคิดว่าเทรดดิ้งได้ เพราะมองว่าแบงก์ทหารไทยผ่านจุด bottom ไปแล้ว" นายศรัณย์ กล่าว