นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT) กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอชะลอเงินกู้โครงการในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดที่ถูกระงับตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด โดยมั่นใจว่าสถานะทางการเงินของกลุ่ม ปตท.ยังแข็งแกร่งเช่นเดิม เนื่องจากโครงการที่ถูกสั่งระงับเป็นส่วนต่อขยายทำให้ไม่ส่งผลกระทบรุนแรง ขณะที่โครงการเดิมที่มีอยู่ยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม จากการประเมินเบื้องต้น คาดว่า หากโครงการลงทุนในพื้นที่มาบตาพุดอีก 18 โครงการล่าช้าไป 1 ปีจะกระทบต่อต้นทุนทางการเงิน และกำไรสุทธิของ ปตท.ราว 5% แต่หากล่าช้าไป 1 ปีครึ่งจะกระทบต่อกำไรสุทธิประมาณ 10%
นายประเสริฐ กล่าวว่า การชะลอโครงการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ เช่น การชะลอโรงแยกก๊าซอาจทำให้ต้นทุนก๊าซหุงต้ม (LPG) สูงขึ้น เนื่องจากต้องนำเข้าจากต่างประเทศ