ราคาหุ้นกลุ่มถ่านหินดาหน้าปรับขึ้น โดยเปิดตลาดเช้านี้
ราคา BANPU พุ่งขึ้นไป 644 บาท บวก 12 บาท และ ล่าสุด(เวลา 10.30 น.)ราคามาอยู่ที่ 634 บาท บวก 2.00 บาท (+0.32%) วอลุ่มซื้อขายหนาแน่น
ขณะที่ ราคาหุ้น LANNA ปรับขึ้น 3.37% มาอยู่ที่ 21.50 บาท บวก 0.70บ บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดขณะนี้
ส่วนราคาหุ้น UMS บวก 0.59% หรือ บวก 0.10 บาท มาอยู่ที่ 17.10 บาท
นายชัยพร น้อมพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.บัวหลวง กล่าวว่า เหตุผลที่ทำให้ราคาหุ้น บมจ.บ้านปู (BANPU) เป็นผลมาจากนักลงทุนได้เปลี่ยนตัวเล่นจากหุ้นกลุ่มน้ำมัน หรือ กลุ่มปตท. ที่มีความเสี่ยงโครงการมาบตาพุดอาจจะชะลอออกไป จึงขายหุ้นน้ำมันเข้ามาซื้อหุ้นกลุ่มถ่านหินแทน
นอกจากนี้ แนวโน้มราคาถ่านหินปรับขึ้นต่อเนื่องจากความต้องการของจีน ซึ่งมีหลายโบรกเกอร์ทั้งในและต่างประเทศได้มีการปรับประมาณการขึ้น แต่สำหรับบล.บัวหลวง ยังคงให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 620 บาท บนสมมติฐานราคาถ่านหินเฉลี่ยปีนี้ ประมาณ 80 เหรียญ/ตัน และขณะนี้ BANPU อยู่ระหว่างเจรจาสัญญาซื้อขายรอบใหม่ ซึ่งก็บังไม่รู้ว่าได้ราคาเท่าไร
"เราไม่แนะนำให้ ซื้อ BANPU เพราะเห็นว่าไม่มี upside แล้ว"นายชัยพร กล่าว
ส่วน บมจ.ลานนารีซอร์สเซส(LANNA)และ บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส(UMS)ซึ่งประกอบธุรกิจถ่านหินนั้น ราคาหุ้นได้ปรับขึ้นตามภาพรวม ที่แนวโน้มราคาถ่านหินปรับขึ้นตามดีมาน์ของตลาด
ด้านนายวรุฒน์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.ฟินันเซีย ไซรัส เห็นว่า ราคาหุ้นกลุ่มถ่านหินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นขณะนี้ เนื่องจากนักลงทุนย้ายการลงทุนจากหุ้นพลังงานอื่นที่ได้รับผลกระทบจากปัจจุบันเรื่องมาบตาพุด ประกอบกับ ราคาถ่านมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากความต้องการใช้ถ่านหินที่เพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่หนาวจัดในประเทศแถบซีกโลกเหนือ รวมทั้งจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่ของโลกมีความต้องการใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากการผลิตกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน และยังมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยในเหมืองของประเทศจีนที่มีปัญหาต่อเนื่อง ทำให้จีนเปลี่ยนจากผู้ส่งออกถ่านหินกลายเป็นผู้นำเข้าถ่านหินแทน
รวมทั้งได้มีการปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของ BANPU จาก 613 บาท เป็น 640-650 บาท รวมปริมาณถ่านหินในหงสาด้วย ประกอบกับน่าจะมีข่าวดีจากการลงทุนเพิ่มของกลุ่มบ้านปูที่อาจได้เหมืองเพิ่มจากอินโดนีเซียและจีน รวมทั้งไทย ที่ยังไม่เปิดเผยสาธารณชน และหุ้น LANNA ยังน่าสนใจด้วย