ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 45.80 จุด ขานรับภาคการผลิตทั่วโลกแข็งแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 12, 2010 06:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ม.ค.) หลังจากจีนและอีกหลายประเทศรายงานกิจกรรมภาคการผลิตที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งช่วยหนุนหุ้นอุตสาหกรรมทะยานขึ้นก่อนที่บริษัท อัลโค อิงค์ จะเปิดเผยผลประกอบการ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดขึ้น 45.80 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 10,663.99 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 2.00 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 1,146.98 จุด และดัชนี Nasdaq อ่อนลง 4.76 จุด หรือ 0.21% ปิดที่ 2,312.41 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 967.1 ล้านหุ้น เมื่อเทียบกับวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ 994.2 ล้านหุ้น

นักวิเคราะห์จากบริษัท เพรสทิจ เวลธ์ เมเนจเมนท์ กรุ๊ป กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กคึกคักขึ้นหลังจากทางการจีนรายงานว่า ยอดส่งออกเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 17.7% ทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน และยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 55.9% โดยยอดส่งออกและนำเข้าที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของจีนจะเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้น

ทางการจีนระบุว่ายอดนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในเดือนธ.ค.2552 พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 21.26 ล้านตัน ส่งผลให้ยอดนำเข้าน้ำมันดิบรายปีอยู่ที่ 203.8 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 13.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี และในปี 2552 จีนส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมัน 25.07 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 46.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี

นอกเหนือจากข้อมูลเศรษฐกิจของจีนแล้ว ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นขานรับข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ยุโรป และอังกฤษ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่าดัชนีกิจกรรมของโรงงานทั่วประเทศในสหรัฐ ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 55.9 จุดในเดือนธ.ค. จากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 53.6 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 54.3 จุด

ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตใน 16 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 21 เดือน ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอังกฤษทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 25 เดือน

หุ้นอัลโคปิดพุ่งขึ้น 2.5% และหลังจากที่ตลาดปิดทำการแล้ว อัลโครายงานว่ายอดขาดทุนสุทธิช่วงไตรมาสสี่อยู่ที่ 277 ล้านดอลลาร์ หรือ 28 เซนต์ต่อหุ้น ทั้งนี้ รายได้ของอัลโคร่วงลงแตะ 5.43 พันล้านดอลลาร์ จากระดับ 5.68 พันล้านดอลลาร์ แต่ยังสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 4.86 พันล้านดอลลาร์

ขณะที่หุ้นแคเทอร์พิลลาร์พุ่งขึ้น 6.3% หุ้นแอปเปิล อิงค์ ขยับลง 0.9% และหุ้นไมโครซอฟท์ คอร์ป ร่วงลง 1.3%

นักลงทุนจับตาดูรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ย. วันพุธ กระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางประจำเดือนธ.ค., ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book

วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. และเฟดจะเปิดเผยตัวเลขการผลิตทางอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ