(เพิ่มเติม) BAT-3K คาดปี 53 รายได้ 4.5 พันลบ.,เล็งปรับขึ้นราคา-ออกสินค้าเจาะยุโรป

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 14, 2010 15:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่(BAT-3K)ระบุว่า หากราคาตะกั่ว ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแบตตารี่ ปรับตัวขึ้นไปทะลุ 2.5 พันเหรียญ/ตัน บริษัทก็จะพิจารณาปรับขึ้นราคาขายสินค้าประมาณ 10-15% เพื่อรักษาระดับกำไรสุทธิของบริษัทในปีนี้ให้อยู่ในระดับที่ดี หรือออกมาใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทพยายามปรับลดต้นทุนการผลิตลงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าทำรายได้เติบโตขึ้นเป็น 4.5 พันล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 3.5-3.7 พันล้านบาท โดยบริษัทมีแผนลงทุน 600-700 ล้านบาท เพื่อผลิตสินค้ารุ่นใหม่เพื่อเจาะตลาดโซนยุโรป ซึ่งจะเริ่มผลิตได้กลางปีนี้

นายวีรวัฒน์ ขอไพบูลย์ กรรมการ BAT-3K เปิดเผยว่า ในปี 53 บริษัทตั้งเป้ารายได้ 4,500 ล้านบาท จากปี 52 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 3,500-3,700 ล้านบาท เนื่องจากภาพรวมของแบตเตอรี่ในตลาด Re-placement ปีนี้คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น 3-5% จากปีก่อนที่ติดลบ 2-3% จึงน่าจะส่งผลดีต่อเนื่องกับบริษัท อีกทั้งตลาดรถยนต์โดยรวมน่าจะเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 1.2 ล้านคัน

"เราเชื่อว่าในปี 53 ทิศทางน่าจะดีขึ้น หลังจากที่ตลาดฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังปี 52 จากครึ่งแรกปี 52 ที่ตลาดไม่ดีเลย ส่วนปีนี้ ตลาดทดแทนมีความต้องการแบตเตอรี่สูง จึงน่าจะทำให้เราได้รับอานิสงส์ไปด้วย และการที่เรามีตลาดทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เมื่อตลาดไหนไม่ดี ก็เปลี่ยนไปตลาดอื่นได้ จึงถือว่าเป็นการลดความเสี่ยง"นายวีรวัฒน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เป็นแบตเตอรี่เมืองหนาวที่จะเจาะตลาดประเทศแถบยุโรป คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในช่วงกลางปี 53 โดยจะใช้เงินลงทุน 600-700 ล้านบาท จัดซื้อเครื่องจักร รองรับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยจะเป็นเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ เพราะปัจจุบัน D/E อยู่ที่ 0.9 เท่า ซึ่งเป็นระดับต่ำ และคงไม่เห็นการเพิ่มทุนใหม่ เพื่อใช้ลงทุนเพิ่มอย่างแน่นอน

และจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในต่างประเทศ เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อบริษัท เนื่องจากมาร์จิ้นการขายสินค้าในต่างประเทศสูงกว่าในประเทศ และทำให้สัดส่วนรายได้ที่มาจากต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นด้วย แม้ช่วงแรกจะมีจำนวนไม่มาก โดยประเมินว่าจะเห็นสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 49-50%

นายวีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังเตรียมปรับราคาขายแบตเตอรี่อีกครั้ง หากราคาตะกั่วปรับสูงขึ้นเกินที่ 2,500 เหรียญสหรัฐ/ตัน โดยคาดว่าจะปรับราคาขายสินค้าเพิ่มขึ้น 10-15% จากที่ได้ปรับราคาไปแล้ว 15% เมื่อต้น ม.ค.53 ที่ราคาตะกั่วสูงขึ้นมาอยู่ที่ 2,200 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากปลายปี 52 ที่ราคาตะกัวอยู่ที่ 1,800 เหรียญสหรัฐ/ตัน

นอกจากนี้ จากความผันผวนของราคาตะกั่วเป็นส่วนสำคัญทำให้บริษัทบริหารสต็อคให้น้อยลงเหลือเพียง 15 วัน จากเดิมที่มีสต็อคไว้ 1 เดือน ขณะที่ลูกค้าจะได้เครดิตเทอม 15 วัน จากเดิม 90 วัน รวมถึงการลดต้นทุนจะมีอย่างต่อเนื่องจากที่บริษัทได้มีการปรับลดต้นทุนมาตั้งแต่ปลายปี 52

ทั้งนี้ เชื่อว่าจะทำให้บริษัทสามารถรักษากำไรในปี 53 ได้ในระดับใกล้เคียงปี 52 โดยต้องคำนึงถึงราคาตะกั่วที่มีความผันผวน นอก โดยคาดว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในปี 53 จะอยู่ที่ 10%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ