นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย(THAI) ระบุว่า ฝ่ายบริหารจะรายงานสรุปผลประกอบการปี 52 ให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาในวันพรุ่งนี้ โดยทั้งปี 52 บริษัทสามารถพลิกสถานการณ์กลับมามีกำไรได้ แม้ว่าในช่วง 9 เดือนแรกจะมีผลขาดทุน เนื่องจากในช่วงปลายปีราคาตั๋วโดยสารให้ผลตอบแทนที่ดี รวมทั้งอัตราบรรทุกผู้โดยสาร(cabin factor) โดยเฉพาะในเดือน ธ.ค.52 ปรับตัวสูงขึ้นมาก
ดังนั้น ทำให้บริษัทมีความมั่นใจมากขึ้นว่าในปี 53 ผลประกอบการของบริษัทจะมีกำไรตามแผนกลยุทธ์ที่กำหนดเป้าหมายกำไรไว้ในระดับ 4 พันล้านบาท
“ผลประกอบการไตรมาส 4 ของการบินไทย ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก และทำให้ผลประกอบการทั้งปีมีกำไร โดยอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารของเดือนพ.ย.-ธ.ค.52 สูงมาก อยู่ที่ประมาณ 75% ขณะที่รายได้ต่อหน่วยหรือYIELD ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และทำให้มั่นใจว่าผลประกอบการปี 53 ของการบินไทยจะมีกำไร 4.3 พันล้านบาท ตามแผนธุรกิจ" นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ จะมีการเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทพิจารณาการจ่ายเงินปันผลและการจ่ายโบนัสให้กับพนักงานการบินไทย เนื่องจากผลประกอบการปี 52 ออกมาดี
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯ ในวันพรุ่งนี้จะพิจารณาอนุมัติแผนการลงทุนปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกบนเครื่องบิน โบอิ้ง 777-200 จำนวน 8 ลำสำหรับชั้นประหยัด มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยจะมีการติดตั้งจอทีวีประจำที่นั่ง และจะทำให้เครื่องบินโบอิ้งทั้งหมด 20 ลำของการบินไทย มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนกันทุกลำ
ส่วนกรณีการส่งมอบเครื่องบินแอร์บัสเอ 330-300 จำนวน 5 ลำ ที่มีปัญหาล่าช้าจากการติดตั้งเก้าอี้นั้น ขณะนี้ THAI ได้ยื่นข้อเสนอครั้งสุดท้ายให้บริษัท KOITO จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการติดตั้งเก้าอี้ให้รีบแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งทาง KOITO ยืนยันว่าภายในเดือนก.พ.นี้ การติดตั้งเก้าอี้จะได้ใบรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยจากองค์กรสากล
อย่างไรก็ตาม THAI ได้จัดทำทีโออาร์เพื่อเตรียมคัดเลือกบริษัทผลิตเก้าอี้รายใหม่ เพื่อที่จะมาติดตั้งเก้าอี้แทนบริษัท KOITO เพื่อเป็นแผนสำรองหากบริษัท KOITO ไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่กำหนด ก็จะจัดหาบริษัทรายใหม่ทันที ซึ่ง THAI ต้องรีบดำเนินการ เพราะปัจจุบันมีปัญหาเครื่องบินไม่เพียงพอกับความต้องการ
ทั้งนี้ จากปัญหาเครื่องบินมีไม่เพียงพอนั้น THAI มีแผนจะนำเครื่องบินแอร์บัส เอ 340-500 ที่อยู่ระหว่างรอจำหน่ายมาให้บริการ รวมทั้งจะพิจารณายกเลิกเส้นทางกรุงเทพฯ-คูเวตที่ให้บริการ 3 เที่ยว/สัปดาห์ และเส้นทางกรุงเทพฯ-มะนิลา-โอซากา เพื่อที่จะนำเครื่องบินที่ให้บริการในเส้นทางดังกล่าวไปให้บริการในเส้นทางอื่นๆ ที่มีกำไร เช่น กรุงเทพฯ-โจฮันเนสเบิร์ก โดย THAI จะได้ข้อสรุปของแผนชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า