นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กมีแนวโน้มผันผวนในสัปดาห์นี้ หลังจากนักลงทุนไม่ได้ตอบรับตัวเลขกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นของเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และอินเทล คอร์ป แต่กลับไปให้น้ำหนักกับข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงยอดค้าปลีกและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยปัจจัยที่อาจทำให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กผันผวนในสัปดาห์นี้ส่วนใหญ่มาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
นักวิเคราะห์จากเครดิตอินไซท์ กล่าวว่า แม้เจพีมอร์แกน ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ เปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาส 4 ปี 2552 อยู่ที่ระดับ 3.28 พันล้านดอลลาร์ หรือ 74 เซนต์/หุ้น เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2551 ที่มีกำไรสุทธิเพียง 702 ล้านดอลลาร์ แต่เจพีมอร์แกนยอมรับว่าธนาคารขาดทุนจำนวนมากจากสินเชื่อจำนองและสินเชื่อบัตรเครดิต ซึ่งทำให้หุ้นเจพีมอร์แกนร่วงลง 2.3% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ขณะที่บริษัท อินเทล คอร์ป เปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาส 4 ที่ระดับ 2.3 พันล้านดอลลาร์ หรือ 40 เซนต์ต่อหุ้น ส่วนผลกำไรอยู่ที่ 234 ล้านดอลลาร์ หรือ 4 เซนต์/หุ้น ขณะที่ยอดขายพุ่งขึ้น 29% แตะ 1.06 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของสหรัฐ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนธ.ค.ร่วงลง 0.3% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% ขณะที่ยอดค้าปลีกที่ไม่นับรวมสินค้าในหมวดรถยนต์ ร่วงลง 0.2% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%
นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนธ.ค.ของสหรัฐขยับขึ้นแตะระดับ 72.8 จุด จากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 72.5 จุด แต่ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าความเชื่อมั่นที่อ่อนแอจะทำให้ตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคหดตัวลงด้วย
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงการคลังจะเปิดเผยข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนพ.ย. และสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) จะเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.
ส่วนวันพุธ กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค. และกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะรายงานดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนธ.ค. และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียจะเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนม.ค.
ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์นิวยอร์ก จะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 18 ม.ค.เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์